สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA เดินหน้าประกาศแผนออกคำสั่งห้ามจำหน่ายบุหรี่เมนทอล โดยอ้างเหตุผลด้านผลกระทบจากบุหรี่ดังกล่าวในกลุ่มผู้บริโภคชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันที่สูงเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ
สำนักข่าว บลูมเบิร์ก รายงานว่า คำประกาศของ FDA นี้ ทำให้บริษัทผู้ผลิตบุหรี่ไม่พอใจอย่างมาก แต่ทำให้นักเคลื่อนไหวต่อต้านยาสูบและกลุ่มรณรงค์ด้านสุขภาพยินดีกันถ้วนหน้า
ในคำประกาศที่ได้รับการเปิดเผยอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีตามเวลาในสหรัฐฯ FDA ระบุว่า สนง.อย. “กำลังหารือเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ยาสูบที่หวังว่าจะประกาศใช้งานได้ภายในปีหน้า เพื่อห้ามการใช้เมนทอล” เป็นสารแต่งรสสำหรับบุหรี่ รวมทั้งระบุว่า กำลังมีแผนที่จะสั่งห้ามการเติมรสทุกรสให้กับซิการ์ด้วย
อย่างไรก็ดี อย.สหรัฐฯ ยืนยันว่า จะเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ และกล่าวว่า คงต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าคำสั่งห้ามจำหน่ายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบ
แจเน็ต วู้ดค็อค รักษาการผู้อำนวยการ FDA กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “การสั่งห้ามใช้เมนทอล ซึ่งเป็นสารแต่งรสประเภทสุดท้ายที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในสหรัฐฯ สำหรับบุหรี่ และการห้ามการเติมสารแต่งรสทุกประเภทสำหรับซิการ์ จะช่วยชีวิตคนได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉาพะในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบในระดับที่หนักกว่าคนทั่วๆ ไป”
หนังสือพิมพ USA Today รายงานว่า แถลงการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของ FDA ว่าแผนงานนี้จะช่วยลดจำนวนเยาวชนที่คิดเริ่มสูบบุหรี่ลงได้ พร้อมๆ กับเพิ่มโอกาสการเลิกสูบบุหรี่ของผู้ที่สูบเป็นประจำ และช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านการรับบริการดูแลสุขภาพ ในชุมชนชาวอเมริกันที่ไม่ใช่กลุ่มคนผิวขาว และในกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำ รวมทั้งกลุ่มเพศทางเลือก LGBTQ+ ด้วย เนื่องจากคนใน 3 กลุ่มนี้คือ ผู้ที่น่าจะสูบบุหรี่แต่งกลิ่นมากกว่ากลุ่มอื่น
รายงานข่าวระบุว่า มีการประเมินว่า ราว 85 เปอร์เซ็นต์ ของผู้สูบบุหรี่ที่เป็นชาวอเมริกันผิวสี ชื่นชอบรสเมนทอล ซึ่งสูงกว่าสัดส่วน 29 เปอร์เซ็นต์ของผู้สูบบุหรี่ที่เป็นคนผิวขาว
ทั้งนี้ แผนการสั่งห้ามการจำหน่ายบุหรี่เมนทอลในสหรัฐฯ มีการพูดถึงมาตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการลงมือดำเนินการอย่างจริงจังจนถึงบัดนี้ โดยเริ่มแรก สภาคองเกรสเป็นผู้ออกคำแนะนำเมื่อปี ค.ศ. 2009 ให้ FDA ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับการใช้สารแต่งรสเมนทอลในบุหรี่
ขณะที่กลุ่มต่อต้านยาสูบยินดีกับความคืบหน้าในเรื่องนี้ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดน กลุ่มผู้ผลิตบุหรี่ ซึ่งรวมถึงบริษัท อัลเทรีย (Altria Group Inc.) ผู้ผลิตและจำหน่ายบุหรี่ยี่ห้อ มาร์ลโบโร ในสหรัฐฯ แสดงจุดยืนต่อต้านทันที พร้อมเตือนว่า หากสิงห์อมควันทั้งหลายไม่มีตัวเลือกในเรื่องของรสชาติมากพอ หลายคนอาจหันกลับไปสูบบุหรี่แบบปกติ หรือไม่ก็อาจหันไปหาผลิตภัณฑ์จากตลาดมืดได้
อย่างไรก็ตาม FDA ไม่เห็นด้วยกับคำเตือนนี้ และยืนยันว่า การตัดสินใจดำเนินแผนแบนบุหรี่เมนทอลนี้ เป็นไปตาม “หลักฐานและข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจน และแสดงให้เห็นถึงอันตรายจากการเสพติดผลิตภัณฑ์ประเภทนี้”
ขณะเดียวกัน FDA ย้ำว่า ทางหน่วยงานจะไม่ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปสอดส่องดูแลพฤติกรรมของชาวอเมริกันผิวสีเพิ่มขึ้น หลังคำสั่งห้ามนี้มีผล เพราะการตัดสินใจดำเนินแผนงานดังกล่าวจะมุ่งเป้าไปยังการผลิตและการจำหน่ายเป็นหลัก
USA Today รายงานว่า คำสั่งห้ามจำหน่ายบุหรี่นี้ไม่ต้องให้สภาคองเกรสอนุมัติเพื่อบังคับใช้ได้ตามกฎหมาย แต่ FDA ต้องนำเสนอรายละเอียดด้านกฎเกณฑ์มาให้รัฐสภาพิจารณา รวมทั้งต้องทำการเปิดรับฟังความเห็นของประชาชนด้วย
เมื่อปี ค.ศ. 2018 อย.สหรัฐฯ ออกคำสั่งจำกัดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า ที่เป็นที่นิยมของนักสูบรุ่นเล็ก เพราะมีการแต่งกลิ่นและรสผลไม้ต่างๆ และรสมินท์ แต่ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่มีการใช้รสเมนทอลเหมือนบุหรี่หรือยาสูบแบบปกติ
