เอฟบีไอ ระบุ สถิติอาชญากรรมรุนแรงลด-คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์พุ่ง

รายงานล่าสุดโดยสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ระบุว่า สถิติการเกิดอาชญากรรมรุนแรงในประเทศในปีที่แล้วลดลงสู่ระดับเดียวกับที่เคยบันทึกได้ก่อนเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 แต่ตัวเลขคดีประทุษร้ายที่สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินกลับพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

รายงานสถิติอาชญากรรมประจำปีที่เผยแพร่ออกมาในวันจันทร์นี้ยังมีการลงหมายเหตุด้วยว่า หน่วยงานรักษากฎหมายบางแห่งไม่ได้ให้ความร่วมมือด้านการจัดเก็บข้อมูลเท่าใดนัก แต่ยังโชคดีที่ว่า ระบบรวมรวบข้อมูลแบบใหม่ที่เริ่มใช้ในปีที่แล้วยังพอจะช่วยให้เห็นภาพรวมที่ค่อนข้างใกล้เคียงความเป็นจริงบ้าง โดยเอฟบีไอกล่าวว่า ข้อมูลชุดใหม่นี้คิดเป็นสัดส่วน 83.3% ของหน่วยงานทุกแห่ง โดยกลุ่มนี้รับผิดชอบดูแลประมาณ 93.5% ของประชากรในประเทศ

ในรายงานของปีที่แล้ว ตัวเลขที่เอฟบีไอจัดเก็บได้คิดเป็นสัดส่วนเพียง 62.7% ของหน่วยงานรักษากฎหมายทั่วประเทศ ซึ่งดูแลประชากรชาวอเมริกันราว 64.8% เท่านั้น

รายละเอียดในรายงานล่าสุดนี้แสดงให้เห็นว่า โดยรวมแล้วคดีอาชญากรรมรุนแรงลดลง 1.7% ทั้งในส่วนของคดีฆาตกรรมและคดีฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา/ไม่ไตร่ตรองไว้ก่อน (ลดลง 6.1%) คดีข่มขืน (ลดลง 5.4%) และคดีจงใจใช้กำลังประทุษร้าย (ลดลง 1.1%) ขณะที่ คดีปล้นจี้เพิ่มขึ้น 1.3%

ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้นไม่มากจากสถิติปี 2021 แต่เป็นการพลิกกลับอย่างรุนแรงเมื่อเทียบกับสถิติการเพิ่มขึ้นของคดีฆาตกรรมถึง 29% ที่บันทึกได้ในช่วงเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19

อย่างไรก็ดี คดีที่เกี่ยวข้องกับการก่อความเสียหายให้กับทรัพย์สินต่าง ๆ ในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 7.1% โดยเฉพาะคดีโจรกรรมรถที่พุ่งขึ้นถึง 10.9% ขณะที่ เอฟบีไอเปิดเผยด้วยว่า จำนวนคดีการปล้นชิงรถที่สูงขึ้น 8.1% จากปี 2021 ซึ่งส่วนใหญ่นั้นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธประกอบการก่ออาชญากรรม และกว่า 1 ใน 4 ของเหยื่อคดีดังกล่าวได้รับบาดเจ็บจากฝีมือคนร้ายด้วย

ข้อมูลทั้งหมดนี้ออกมาในทิศทางเดียวกับรายงานที่ Council on Criminal Justice ซึ่งเป็นหน่วยงานคลังสมองที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเปิดเผยออกมาเมื่อเดือนกรกฎาคม และเปิดเผยว่า การรวบรวมข้อมูลจากพื้นที่ 37 เมืองทั่วสหรัฐฯ พบว่า สถิติคดีฆาตกรรมลดลง 9.4% ในครึ่งแรกของปี 2023 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2022 แต่ตัวเลขคดีโจรกรรมรถนั้นพุ่งขึ้นถึง 33.5%

นอกจากนั้น รายงานในปีนี้ของเอฟบีไอยังชี้ด้วยว่า ตัวเลขเหยื่อผู้ใหญ่ซึ่งเสียชีวิตในคดีที่เกี่ยวข้องกับปืนนั้นลดลง 6.6% แต่สถิติเหยื่อที่เป็นเด็กและเยาวชนกลับเพิ่มขึ้นถึง 11.8%

ทั้งนี้ทั้งนั้น ในภาพรวมนั้น ตัวเลขคดีอาชญากรรมรุนแรงในสหรัฐฯ ในปีที่ผ่านมานั้นยังต่ำกว่าสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1990 อย่างมาก

• ที่มา: เอพี