ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ตรวจสอบข่าว: สถานทูตรัสเซียในอังกฤษแชร์ข้อมูลปลอมว่า มีโบสถ์ในยูเครนถูกเผาทำลาย จริงหรือไม่


Screenshot of a YouTube video showing a fire at the Church of the Kazan Icon of the Mother of God in Ilyinka, Russia, uploaded on January 22, 2013. Russia's U.K. Embassy and others claimed the video showed a church that had recently been burned down in Ukraine.
Screenshot of a YouTube video showing a fire at the Church of the Kazan Icon of the Mother of God in Ilyinka, Russia, uploaded on January 22, 2013. Russia's U.K. Embassy and others claimed the video showed a church that had recently been burned down in Ukraine.
สถานทูตรัสเซียในอังกฤษ

สถานทูตรัสเซียในอังกฤษ

“โบสถ์ออร์โธดอกซ์อีกแห่งถูกเผาทำลายในยูเครน ครั้งนี้ ชะตากรรมอันโหดร้ายเกิดขึ้นกับคริสตจักร์ยูเครนออร์โธดอกซ์ในหมู่บ้านโนโวโพลตาฟกา คลิปวิดีโอแสดงให้เห็นภาพขณะที่ผู้คนกำลังเฝ้ามองโบสถ์ที่มีไฟลุกท่วมด้วยฝีมือกองกำลังความมั่นคงหรือไม่ก็กลุ่มผู้คัดค้าน ความรู้สึกหวาดกลัว”

เท็จ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีการแชร์โพสต์ไปตามสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และอ้างว่า โบสถ์ออร์โธดอกซ์แห่งหนึ่งในหมู่บ้านโนโวโพลตาฟกา ของเขตปกครองมีโคลาอิฟทางใต้ของยูเครน ถูกวางเพลิงเผาวอดวาย

โพสต์ดังกล่าวมาพร้อมกับคลิปวิดีโอของโบสถ์แห่งหนึ่งขณะถูกไฟลุกท่วมอยู่ด้วย

ผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์หลายรายอ้างว่า สถานที่เกิดเหตุดังกล่าวคือ โบสถ์แพริชของคริสตจักรยูเครนรออร์โธดอกซ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคริสตจักรรัสเซียออร์โธดอกซ์ แต่ประกาศตนเป็นอิสระหลังมอสโกทำการรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2022

โพสต์เหล่านี้อ้างว่า อัคคีภัยที่เกิดขึ้นเป็นการวางเพลิงโดยกลุ่มหัวรุนแรงชาวยูเครน “กลุ่มสนับสนุนการแบ่งแยกแตกความสามัคคี” หรือไม่ก็กองกำลังความมั่นคงของยูเครน

ในวันที่ 7 เมษายน สถานทูตรัสเซียในอังกฤษแชร์คลิปวิดีโอของโบสถ์ที่กำลังประสบเหตุไฟลุกไหม้ผ่านทางเฟซบุ๊กของตนที่มาพร้อมคำบรรยายดังนี้:

“โบสถ์ออร์โธดอกซ์อีกแห่งถูกเผาทำลายในยูเครน ครั้งนี้ ชะตากรรมอันโหดร้ายเกิดขึ้นกับคริสตจักรยูเครนออร์โธดอกซ์ในหมู่บ้านโนโวโพลตาฟกา คลิปวิดีโอแสดงให้เห็นภาพขณะที่ผู้คนกำลังเฝ้ามองโบสถ์ที่มีไฟลุกท่วมด้วยฝีมือกองกำลังความมั่นคงหรือไม่ก็กลุ่มผู้คัดค้าน ความรู้สึกหวาดกลัว”

นี่เป็นความเท็จ

ในความเป็นจริง คลิปวิดีโอดังกล่าวแสดงให้เห็นภาพโบสถ์แห่งหนึ่งที่กำลังถูกไฟไหม้ในหมู่บ้านอิลลียินกาของรัสเซีย เมื่อ 10 ปีก่อน

ทั้งนี้ วิดีโอของโบสถ์ที่ถูกไฟไหม้ในอิลลียินกานั้นมีให้ค้นหาทางยูทูบอยู่แล้ว โดยมีเนื้อหาเหมือนกับคลิปที่สถานทูตรัสเซียในอังกฤษและผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์อื่น ๆ แชร์มาด้วย

สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อวันที่ 7 เมษายนว่า วิดีโอที่แสดงให้เห็นภาพโบสถ์ถูกไฟไหม้นั้นถูกโพสต์ขึ้นยูทูบครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 มกราคม ปี ค.ศ. 2013 และมีการระบุว่า ไฟที่ลุกไหม้นั้นเกิดขึ้นที่โบสถ์พระแม่มารีสัญลักษณ์แห่งคาซาน (Church of the Kazan Icon of the Mother of God ในหมู่บ้านอิลลียินกา ในแคว้นอัสทราคานของรัสเซีย

เอพียังพบโพสต์ที่มีผู้นำออกมาแชร์ในช่วงเดียวกันที่เว็บไซต์ขององค์การบริหารท้องถิ่นแห่งหนึ่ง โดยมีคำบรรยายว่า เป็นภาพเหตุอัคคีภัยที่อิลลียินกาเช่นกัน

รายงานข่าวระบุว่า มีการก่อสร้างโบสถ์ดังกล่าวขึ้นมาใหม่หลังเกิดเหตุแล้วด้วย

ขณะเดียวกัน ศูนย์ความมั่นคงด้านการสื่อสารและสารสนเทศเชิงยุทธศาสตร์ (Center for Strategic Communication and Information Security) ของรัฐบาลยูเครน ยืนยันแล้วว่า คลิปวิดีโอที่ว่าแสดงให้เห็นภาพของโบสถ์ที่กำลังถูกไฟเผาในรัสเซีย ไม่ใช่ในยูเครน

ศูนย์แห่งนี้ระบุด้วยว่า “รัสเซียมุ่งใช้เรื่องกุขึ้นมาเช่นนี้เพื่อหาทางทำให้ชาวยูเครนเสื่อมเสีย และทำให้การสู้รับต้านอิทธิพลรัสเซียอ่อนกำลังลง” และว่า “ชาวยูเครนยอมรับศาสนาที่แตกต่างกันและไม่ทำลายโบสถ์”

และวันหนึ่ง โพสต์ของเหตุไฟไหม้โบสถ์ที่ว่านี้ก็หายไปจากหน้าเพจเฟซบุ๊กของสถานทูตรัสเซียในอังกฤษ โดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ แต่ก็มีการเก็บไว้ในแฟ้มบันทึกถาวรแล้ว

Screenshot from archive.today showing the official Facebook account of Russia's Embassy in the U.K. On April 7, 2023, the embassy shared a video of a burning church on Facebook, which it falsely said was in Ukraine.
Screenshot from archive.today showing the official Facebook account of Russia's Embassy in the U.K. On April 7, 2023, the embassy shared a video of a burning church on Facebook, which it falsely said was in Ukraine.

การกล่าวอ้างแบบผิด ๆ ว่า โบสถ์แห่งหนึ่งถูกเผาจนวอดวายในโนโวโพลตาฟกา ตรงกับรูปแบบการกระจายข้อมูลบิดเบือนของฝ่ายรัสเซียอีกครั้ง หลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และหลายคนในรัสเซียออกมากล่าวอ้างอย่างผิด ๆ ว่า มีการกดขี่ข่มเหงผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ไปก่อนหน้านี้

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ฝ่ายโพลีกราฟเพิ่งรายงานด้วยว่า เซอร์เกย์ นารีชคิน ผู้อำนวยการหน่วยงานข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย ดำเนินการเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิดผิด ๆ ออกมาว่า ชาติตะวันตกและยูเครนกำลังหาทางทำลายคริสต์จักรนิกายออร์โธดอกซ์ในยูเครนอยู่

ถึงกระนั้น ในความเป็นจริง ประเด็นที่ว่า คริสตจักรนิกายออร์โธดอกซ์ของยูเครนยังคงถูกควบคุมโดยพระสังฆราชรัสเซียยังคงเป็นเรื่องที่มีการโต้แย้งและถกเถียงกันในหมู่ชาวยูเครนอยู่ดี

ในเวลานี้ นักบวชนิกายออร์โธดอกซ์หลายสิบคนในยูเครนกำลังถูกสอบสวนหรือเผชิญหน้ากับการดำเนินคดีอาญาในข้อหาว่า ให้ความร่วมมือกับกองกำลังรัสเซีย หรือไม่ก็ ให้การสนับสนุนความพยายามทำสงครามของฝ่ายมอสโก ขณะที่ มีการบุกตรวจค้นอารามและโบสถ์ รวมทั้งสถานที่ปฏิบัติกิจอื่นๆ ของนิกายออร์โธดอกซ์ในยูเครนไปแล้ว

ทั้งหมดนี้ เป็นเพราะการเชื่อมโยงเชิงสถาบันระหว่างนิกายออร์โธดอกซ์ของยูเครนและของรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้รุกรานยูเครนในเวลานี้

Priests of the Ukrainian Orthodox Church pray with their supporters after resisting a government order to leave the Kyiv Pechersk Lavra monastery complex in Kyiv, on April 1, 2023. (Roman Hrytsyna/AP)
Priests of the Ukrainian Orthodox Church pray with their supporters after resisting a government order to leave the Kyiv Pechersk Lavra monastery complex in Kyiv, on April 1, 2023. (Roman Hrytsyna/AP)

แต่รัสเซียก็พยายามปั่นสถานการณ์เข้าข้างตัวเองด้วยการกล่าวอ้างอย่างผิด ๆ ว่า เกิดสงครามศาสนาต่อผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์อยู่

สถาบัน Institute for the Study of War ซึ่งเป็นหน่วยงานคลังสมองที่ตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตันกล่าวว่า มอสโกได้ใช้ศาสนาเป็นอาวุธ “เพื่อจะได้ใส่ความยูเครนว่า เป็นปีศาจ และเพื่อทำให้รัสเซียดูเป็นผู้ปกป้องคุณค่าของชาวคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์”

สื่อรัฐบาลรัสเซียยังออกมากล่าวอ้างอย่างผิด ๆ ด้วยว่า นาโต้ กลุ่มพันธมิตรทางทหารที่มีประเทศสมาชิกทั้งหมด 31 ประเทศซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ กำลังผิดใจอยู่กับคริสตจักรนิกายออร์โธดอกซ์ และว่า ชาติตะวันตกนั้นกำลังพยายาม “ต้านความเชื่อของออร์โธดอกซ์” อยู่ด้วย

ในทางกลับกัน สถาบัน Institute for Religious Freedom ในกรุงเคียฟตีพิมพ์รายงานฉบับหนึ่งออกมาในเดือนกุมภาพันธ์ที่ระบุว่า มี “อาคารทางศาสนา สถาบันศาสนศาสตร์ และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างน้อย 294 แห่ง ที่ถูกทำลายอย่างย่อยยับ ได้รับความเสียหาย หรือถูกบุกปล้น โดยกองทัพรัสเซีย” ในยูเครน นับตั้งแต่เมื่อการรุกรานของรัสเซียเริ่มต้นในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2022

รายงานฉบับนี้กล่าวว่า ผู้ยึดครองชาวรัสเซียได้ตั้งเป้าเป็นพิเศษต่อ “ผู้ที่นับถือศาสนาคริสตจักรนิกายโปรแตสแตนต์อิแวนเจลิคัลในยูเครน” โดยวาดภาพคนกลุ่มนี้ให้เป็น “สายลับอเมริกัน” “พวกนอกศาสนา” และ “ศัตรูของผู้นับถือนิกายออร์โธดอกซ์ของรัสเซีย”

รายงานดังกล่าวยังมีรายละเอียดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับอาคารจำนวน 143 แห่งที่คริสตจักรนิกายยูเครนออร์โธดอกซ์เป็นเจ้าของ และอาคารอีก 34 แห่งที่เป็นของคริสตจักรนิกายนี้แต่เป็นอิสระอย่างเต็มตัวจากคริสตจักรนิกายรัสเซียออร์โธดอกซ์

ข้อมูลในรายงานนี้ระบุว่า ตัวเลขโบสถ์ มัสยิดและโบสถ์ยิวที่ถูกทำลายมากที่สุดนั้นอยู่ในเขตปกครองดอแนตสก์ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 เขตปกครองที่รัสเซียผนวกเข้ากับตนเองอย่างผิดกฎหมายเมื่อปีที่แล้ว

ที่มา: ฝ่าย Polygraph วีโอเอ

XS
SM
MD
LG