เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา ช่อง Milenio Television ซึ่งเป็นสถานีข่าวเคเบิลของเม็กซิโก รายงานว่า สมาชิกรายหนึ่งของแก๊งค้ายา Gulf Cartel ปรากฏตัวในคลิปวิดีโอชิ้นหนึ่งขณะกำลังแบกอาวุธต่อต้านขีปนาวุธ ‘จาเวลิน’ (Javelin) ที่สหรัฐฯ เป็นผู้ผลิต และมีการนำส่งไปช่วยกองทัพยูเครนรับมือกับการรุกรานของรัสเซียอยู่
แก๊ง Gulf Cartel นั้น เป็นองค์กรอาชญากรรมที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของเม็กซิโก และมีที่ทำการใหญ่ในเมืองมาตาโมรอส (Matamoros) รัฐตาเมาลีปัส (Tamaulipas) ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับชายแดนรัฐเท็กซัส ของสหรัฐฯ
สถานี Milenio Television เผยแพร่คลิปวิดีโอดังกล่าวออกมา และอ้างว่า นำมาจากแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์แห่งหนึ่งโดยไม่ได้ระบุที่มา และไม่ได้ยืนยันว่า มีการตรวจสอบความถูกต้องแล้วหรือไม่
ขณะเดียวกัน บัญชีทวิตเตอร์ All Source News ซึ่งเน้นการรายงานเหตุความรุนแรงในเม็กซิโก กล่าวว่า คลิปวิดีโอนี้ “ถูกนำไปแชร์อย่างแพร่หลายโดยบัญชีผู้ใช้งานหลายบัญชีที่รายงานข่าวในรัฐตาเมาลีปัส”
บัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าวยังระบุด้วยว่า ป้ายที่อยู่ที่ด้านหลังเสื้อของสมาชิกแก๊งค้ายาที่ขนอาวุธในคลิปนี้เป็นเครื่องหมายของ Grupo Escorpion ซึ่งเป็นหน่วยติดอาวุธของ Gulf Cartel
หลังจากนั้น สื่อต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง สถานีโทรทัศน์ RT ของรัสเซีย และเว็บไซต์ข่าว Firstpost ของอินเดีย ก็มาร่วมรายงานข่าวนี้ โดยอ้างว่า มีการตรวจสอบแล้วว่า อาวุธที่ปรากฏอยู่ในคลิปดังกล่าวเป็นระบบต่อต้านขีปนาวุธ ‘จาเวลิน’ จริง และระบุด้วยว่า เป็นอาวุธที่สหรัฐฯ ตั้งใจส่งให้ยูเครน หรือไม่ก็ถูกลักลอบขนออกมาจากยูเครน
Firstpost ตีพิมพ์หัวข้อข่าวว่า:
“สหรัฐฯ พลาด ส่งขีปนาวุธต่อต้านรถถัง 'จาเวลิน' ให้ยูเครน แต่กลับตกไปอยู่ในมือแก๊งเม็กซิกัน”
และฝ่าย Polygraph ตรวจสอบแล้วก่อนจะยืนยันว่า คำกล่าวอ้างนี้เป็นความเท็จ
ในความเป็นจริง สถานี RT และเว็บไซต์ Firstpost ต่างหากที่พลาด เพราะอาวุธต่อต้านรถถังในคลิปวิดีโอนั้นไม่ใช่ ขีปนาวุธต่อต้านรถถัง ‘จาเวลิน’ เลย
ทั้งนี้ ไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า อาวุธต่อต้านรถถังที่ว่าและปรากฏอยู่ในรายงานข่าวของ Milenio Television เป็นสิ่งที่ควรจะถูกส่งไปยังยูเครน หรือถูกลักลอบขนออกจากยูเครนมายังเม็กซิโก และไม่มีหลักฐานที่ยืนยันด้วยว่า อาวุธนี้มาจากคลังสรรพาวุธของสหรัฐฯ
อาวุธในรายงานข่าวนั้นดูเหมือนจะเป็นอาวุธต่อต้านรถถังแบบเบา รุ่น AT4 ที่ผลิตโดยบริษัท Saab Bofors Dynamics ของสวีเดน หรือไม่ก็เป็น รุ่น M136 ซึ่งเป็นของเลียนแบบของ AT4 ที่มีการอนุมัติให้ผลิตได้อย่างถูกกฎหมายและมีการใช้อย่างกว้างขวางในกองทัพสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารมวลชนของ Saab Bofors Dynamics บอกกับฝ่าย Polygraph ว่า บริษัทเองก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า อาวุธที่ตกเป็นข่าวอยู่นั้นเป็นของตนหรือไม่ เนื่องจาก คลิปที่ถูกนำมาเผยแพร่นั้นไม่ได้ออกมาจากทางบริษัท
เว็บไซต์ Military-Today.com กล่าวว่า การจะแยกแยะอาวุธรุ่น M136 กับ AT4 นั้นทำได้ยาก เพราะ “รูปร่างของ M136 ที่แทบจะเหมือนกับของ AT4 อย่างมาก”
นอกจากนั้น ไรอัน แม็คเบ็ธ นักวิเคราะห์ด้านข่าวกรองที่เชี่ยวชาญด้านการค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลเปิดทั่วไป (OSINT - Open Source Intelligence) แย้งว่า ภาพของอาวุธรุ่น AT4 ในคลิปวิดีโอนั้นมีลักษณะ “คล้าย ๆ กับอุปกรณ์ประกอบฉากภาพยนตร์” เพราะอาวุธในคลิปวิดีโอนั้นมีวงแหวนสีทองรอบ ๆ ลำกล้อง ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่า นี่เป็นอุปกรณ์สำหรับผู้ฝึกอบรมใช้ในภาคสนาม หรือไม่ก็เป็นอุปกรณ์ฝึกอบรมที่ใช้งานไม่ได้จริงและไม่มีหัวรบของจริงอยู่ภายใน
สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับศัพท์ด้านอาวุธ ชื่อ AT4 นั้นเป็นการเล่นคำที่ระบุถึง ขนาดลำกล้องของปืน ซึ่งก็คือ 84 ม.ม. โดยอาวุธรุ่นนี้เป็นอุปกรณ์แบบยิงได้ครั้งเดียวและใช้แล้วทิ้ง ไม่เหมือนกับของระบบ ‘จาเวลิน’ ตรงที่ไม่มีตัวปล่อยนำวิถี (guided)
เบรนท์ อีสต์วูด บรรณาธิการด้านความมั่นคงแห่งชาติและกิจการกลาโหมของเว็บไซต์ 19FortyFive เคยระบุในบทความที่ตีพิมพ์ออกมาในเดือนมีนาคม ปี ค.ศ. 2022 ว่า “[AT4] นั้นไม่ใช่สิ่งที่จะมาแทนระบบปล่อยนำวิถี NLAW หรือ จาเวลิน ที่มีความสามารถยิงถล่มรถถังหลัก ๆ ได้ แต่นี่เป็น[อาวุธ]ที่ใช้งานได้ง่าย และผู้ที่เพิ่งเข้ามาร่วมกับกองทัพก็สามารถฝึกอบรมใช้อาวุธนี้ได้ภายในเวลาไม่นาน”
อย่างไรก็ดี ทั้งขีปนาวุธและระบบยิง ‘จาเวลิน’ นั้นมีราคาแพงและอาจสูงถึง 197,000 ดอลลาร์ ซึ่งยิ่งทำให้อาวุธรุ่น AT4 กลายมาเป็นทางเลือกที่มีราคาถูกกว่ามาก แม้จะมีประสิทธิภาพต่ำกว่าก็ตาม
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ส่งอาวุธรุ่น AT4 จำนวนหลายพันชุดไปให้กับยูเครน เช่นเดียวกับที่สวีเดนดำเนินการมา
แต่ AT4 ก็เป็นอาวุธที่กองทัพทั่วโลกใช้งานอยู่ แม้แต่ในทวีปอเมริกาใต้ เช่น กรณีของ อาร์เจนตินา บราซิล โคลอมเบีย และเวเนซุเอลา
ในปี ค.ศ. 2019 การนำส่งอาวุธ AT4 จำนวนหนึ่งไปยังกองทัพเวเนซุเอลาเกิดผิดพลาดและกลับไปตกอยู่ในมือของกองกำลังติดอาวุธปฏิวัติโคลอมเบีย (Revolutionary Armed Forces of Colombia – FARC) ซึ่งเป็นกองโจรอิงลัทธิมากซ์-เลนิน ก่อนที่รัฐบาลโคลอมเบียจะสามารถยึดอาวุธดังกล่าวกลับคืนมาได้
ในครั้งนั้น สวีเดนสอบถามรัฐบาลเวเนซุเอลาว่า กลุ่มกบฏฟาร์ก (FARC) สามารถขโมยอาวุธดังกล่าวไปได้อย่างไร เนื่องจากอุปกรณ์ทั้งหมดมีใบรับรองว่า ผู้รับของเพื่อนำไปใช้งานนั้นคือ เวเนซุเอลา
ทั้งนี้ แก๊งค้ายาของเม็กซิโกพยายามหาอาวุธต่าง ๆ เช่น AT4 มาใช้งานตั้งแต่ก่อนที่รัสเซียจะรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่แล้ว และเคยมีคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นสมาชิกของแก๊งต่าง ๆ ถืออาวุธเหล่านี้อยู่ออกมาก่อนหน้านี้แล้วด้วย
ผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์บางรายและสื่อบางแห่งระบุว่า อาวุธที่อยู่ในรายงานข่าวของสถานี Milenio Television นั้นเป็น อาวุธ AT4 แต่มีการบิดเบือนความจริงของเนื้อหา เพื่อบ่อนทำลายแรงสนับสนุนของสหรัฐฯ ให้กับยูเครน
หนึ่งในผู้ที่ออกมาให้ความเห็นดังกล่าวคือ เว็บไซต์รวบรวมข่าวสาร Citizen Free Press ที่ทวีตข้อความว่า:
“ทีวีเม็กซิโกรายงานว่า ระบบอาวุธ AT4 ของสหรัฐฯ หลายสิบชุด ซึ่งเดิมทีถูกส่งไปยังยูเครน กลับถูกแก๊ง Cartel Golfo ในเม็กซิโกซื้อไปแทน”
ข้อมูลจากทวิตเตอร์ระบุว่า ข้อความดังกล่าวมีผู้อ่านถึง 2.6 ล้านครั้ง
แต่สถานี Milenio Television ไม่เคยรายงานว่า อาวุธเหล่านั้น “เดิมทีถูกส่งไปยังยูเครน” แต่ระบุเพียงว่า อาวุธแบบดังกล่าวถูกส่งไปยังยูเครนมาก่อน เหมือนกับที่ถูกส่งไปยังประเทศอื่น ๆ ในอเมริกากลาง
สถานีข่าว RT ของรัสเซียใช้ประเด็นความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับที่มาและผู้ผลิตอาวุธในคลิปวิดีโอดังกล่าวเพื่อสนับสนุนประเด็นที่เครมลินใช้โจมตีสหรัฐฯ ว่า “การที่ไม่มีการควบคุมใด ๆ” สำหรับการนำส่งอาวุธของอเมริกาไปยังยูเครน “จะนำมาซึ่งเหตุการณ์ที่อาวุธเหล่านั้นตกไปอยู่ในมือของกลุ่มอาชญากรมาเฟีย”
แต่ในความเป็นจริง รัฐบาลสหรัฐฯ จัดทำรายละเอียด “ขั้นตอนรูปธรรม” สำหรับการ “ต่อต้านภัยคุกคามของโอกาสจากการหันเหของการนำส่งอาวุธในยุโรปตะวันออก” ที่ออกมาค้านคำกล่าวอ้างของ RT แล้ว
ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของคณะกรรมาธิการยุโรปรายหนึ่งบอกกับรอยเตอร์ว่า สหภาพยุโรปไม่ตรวจพบ “การลักลอบอาวุธปืน” ขนานใหญ่ออกจากยูเครนเลย
ถึงกระนั้น ขณะที่ การนำส่งความช่วยเหลือด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ คือปัจจัยสำคัญในการช่วยยูเครนป้องกันการรุกรานของรัสเซีย เจ้าหน้าที่กรุงเคียฟเคยแสดงความไม่สบายใจและกังวลเกี่ยวกับความน่าจะเป็นที่สหรัฐฯ จะระงับการส่งความช่วยเหลือให้ หากเกิดเหตุที่ว่า อาวุธเหล่านั้นหลุดไปอยู่ในตลาดมืดขึ้นมา
- ที่มา: ฝ่าย Polygraph วีโอเอ