เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา สื่อ RIA Novosti ของรัฐบาลรัสเซียตีพิมพ์บทความโดย วิกตอเรีย นิกิโฟโรวา คอลัมนิสต์ข่าวการเมืองมือต้น ๆ ของตน โดยมีหัวข้อข่าวว่า “ตอนนี้ ชาวอเมริกันต้องการให้ปูตินมาเป็นประธานาธิบดีของพวกเขา” พร้อมอ้างว่า แรงสนับสนุนวลาดิเมียร์ ปูติน ของชาวอเมริกันนั้นพุ่งสูงขึ้นอย่างมากด้วย
"ความรักของอเมริกาต่อประธานาธิบดีรัสเซียพุ่งล้น จากการยั่วยุ อย่างน่าอัศจรรย์ โดยจุดยืนอันแข็งกร้าวสุดโต่งของเขาต่อศัตรูของรัสเซีย"
ประเด็นนี้เป็นความเท็จ
นิกิโฟโรวา ซึ่งถูกสหภาพยุโรปสั่งลงโทษเมื่อเดือนมีนาคมของปีที่แล้ว ในฐานะที่เป็น “บุคคลสำคัญ” ในการดำเนินแผนงานโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย และ “ปฏิเสธสิทธิ์ในการดำรงอยู่ของยูเครน และความสามารถของชาวยูเครนในการตัดสินใจด้วยตนเอง” เขียนบทความดังกล่าวออกมาด้วยการอ้างถึง “บทวิเคราะห์” ที่เธอได้จากบทความเพียงชิ้นเดียวจาก American Thinker ซึ่งเป็นสื่อหัวอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ โดยตัวเธอยังแปลเนื้อหาจากบทความนั้นอย่างผิด ๆ ด้วย
ในความเป็นจริง สัดส่วนของชาวอเมริกันที่สนับสนุนประธานาธิบดีรัสเซียนั้นปรับลงอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 2 ทศวรรษแล้ว ตามข้อมูลของการสำรวจความคิดเห็นประชาชนหลายสำนัก
ผลการสำรวจล่าสุดโดย Pew Research Center ซึ่งเป็นหน่วยงานคลังสมองที่ตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน แสดงให้เห็นว่า แรงสนับสนุนปูตินร่วงลงแตะ “ระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี” แล้ว
“(การสำรวจ)ใน 18 ประเทศ ค่ามัธยธานที่ 90% กล่าวว่า พวกเขา(ผู้ตอบแบบสอบถาม)ไม่มีความมั่นใจในปูติน ว่าจะทำสิ่งที่ถูกต้องในประเด็นระดับโลก และเกือบ 8 ใน 10 (78%) ระบุว่า ตนไม่มั่นใจในปูตินแม้แต่น้อย”
ในสหรัฐฯ ระดับความนิยมในตัวปูตินนั้นตกต่ำกว่าค่ามัธยฐานนานาชาติเสียอีก โดย 92% ของชาวอเมริกันที่ร่วมในการสำรวจความคิดเห็นของ Pew กล่าวว่า ตนไม่มั่นใจในปูตินเลย เช่นเดียวกับที่ญี่ปุ่น โดยตัวเลขนี้ยังต่ำกว่าตัวเลขในประเทศยุโรปหลายแห่ง เช่น โปแลนด์ (97%) และสวีเดน (95%) เป็นต้น
Pew นั้นทำการติดตามดูทัศนคติเกี่ยวกับตัวประธานาธิบดีรัสเซียตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
ในปี 2003 ผลสำรวจของ Pew แสดงให้เห็นว่า 41% ของชาวอเมริกันมีความมั่นใจในตัวปูตินว่า “จะทำสิ่งที่ถูกต้องในประเด็นระดับโลก” ขณะที่ 47% ไม่เห็นเช่นนั้น และตัวเลขในครั้งนั้นคือ จุดสูงสุดของระดับความเห็นใจที่สังคมอเมริกันมีให้ต่อปูติน เมื่อดูผลสำรวจทั้งหมดขององค์กรนี้
หลังรัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนเข้ากับตนในเดือนมีนาคม ปี 2014 ระดับความนิยมในสหรัฐฯ ต่อปูตินตกฮวบหนัก โดยมีชาวอเมริกันเพียง 16% จากผลสำรวจของ Pew ที่ยังนิยมชมชอบผู้นำรัสเซียอยู่ เทียบกับผลสำรวจในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2012 ซึ่งอยู่ที่ 28%
ขณะเดียวกัน การสำรวจโดย Gallup ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลที่ตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ยังพบด้วยว่า การผนวกไครเมียโดยรัสเซียส่งผลกระทบทางลบต่อภาพลักษณ์ของปูตินในสหรัฐฯ เพราะตัวเลขผู้ที่ยังมองผู้นำสหรัฐฯ ในด้านดีในปี 2015 ร่วงลงมาอยู่ที่ 13% เทียบกับ 19% ในปี 2013
และการที่รัสเซียรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่แล้วยังทำให้ปูตินกลายมาเป็นผู้นำโลกที่สาธารณชนชาวอเมริกันเกลียดมากที่สุดคนหนึ่ง
ผลสำรวจโดย The Wall Street Journal ในเดือนมีนาคมของปีที่แล้ว หรือหลังการเปิดฉากรุกรานยูเครนไม่นาน พบว่า มีเพียง 4% ของชาวอเมริกันที่ตอบแบบสอบถามที่ยังมองปูตินในด้านบวกอยู่ ขณะที่ 90% มองผู้นำรัสเซียในแง่ลบ และ 6% ที่ยังไม่ตัดสินใจ
นอกจากนั้น การสำรวจทั่วประเทศโดยมหาวิทยาลัยควินิพิแอค (Quinnipiac University national poll) ต่อชาวอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่ ซึ่งจัดทำในเดือนเมษายนของปี 2022 พบว่า กว่า 8 ใน 10 ของชาวอเมริกัน (82%) คิดว่า ประธานาธิบดีรัสเซียคือ “อาชญากรสงคราม” โดย 10% ไม่คิดเช่นนั้น ขณะที่ 71% ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่า พวกตนเชื่อว่า ปูตินสั่งทหารรัสเซียให้ฆ่าพลเรือนในยูเครน แต่ 14% ไม่เชื่อเช่นนั้น
ทิม มัลลอย นักวิเคราะห์ของหน่วยงานสำรวจวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยควินิพิแอค กล่าวว่า “จำนวนผู้เสียชีวิตนับพันในยูเครนและความเชื่อที่ฟังแล้วรู้สึกกลัวสยดสยองว่า นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของความป่าเถื่อน ทำให้ชาวอเมริกันมองปูตินว่า เป็นฆาตกรผู้สั่งการทหารของตนให้ทำในสิ่งที่คิดไม่ถึงและจัดการกับพลเรือน”
และการสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันในเดือนกรกฎาคม ปี 2022 โดย Chicago Council on Global Affairs พบว่า มีเพียง 4% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ยังมองปูตินว่า มีภาพลักษณ์ที่ดีอยู่
ส่วนการสำรวจชาวอเมริกันในเดือนกันยายน ปี 2022 โดย YouGov ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลและวิจัยการตลาดระหว่างประเทศจากกรุงลอนดอน ชี้ว่า มีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 8% ที่มองรัสเซียว่า “เป็นมิตร” หรือ “เป็นพันธมิตร” อยู่
ยิ่งไปกว่านั้น เพียง 4% ของผู้ร่วมการสำรวจของ YouGov ที่บอกว่า ตนยังมองปูตินในแง่ดีอยู่ ขณะที่ 8% ยังพอจะมองปูตินในแง่ดีอยู่ได้บ้าง โดยกลุ่มที่สนับสนุนปูตินมากที่สุดเป็นผู้ตอบแบบสอบถามที่มีช่วงอายุระหว่าง 18-29 ปี ซึ่งมีสัดส่วนผู้สนับสนุนผู้นำรัสเซียที่ราว 19% เทียบกับ 64% ของผู้ที่ไม่สนับสนุน
กลุ่มผู้ร่วมงานสำรวจที่ไม่ชอบปูตินมากที่สุดคือ ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป โดยในกลุ่มนี้มีเพียง 5% เท่านั้นที่ยังนิยมชมชอบปูติน ขณะที่ 89% ไม่นิยมชมชอบเลย
และเมื่อไปดูผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันโดย Redfield and Wilton ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และสำรวจวิจัยนานาชาติ ที่มีที่ทำการในกรุงลอนดอน ที่ทำในเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว พบว่า 60% ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่า ตนคิดว่า การ “กำจัดวลาดิเมียร์ ปูติน ออกจากอำนาจ จะเป็นเป้าหมายที่สมเหตุสมผลอย่างหนึ่ง” โดยมี 18% ที่มองว่า วิธีดังกล่าว “รุนแรงเกินไป” และ 22% ไม่มีความเห็น
ในรัสเซียเอง ระดับความนิยมในตัวปูตินพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในช่วง 5 ปี ทันทีที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบ อ้างอิงจากผลสำรวจของ Levada Center ในเดือนมีนาคมของปีที่แล้ว
- ที่มา: ฝ่าย Polygraph วีโอเอ