สงครามอิสราเอล-ฮามาส ดำเนินไปเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว และ นักวิเคราะห์ ยังคง ตั้งคำถาม ว่ากลุ่มติดอาวุธเฮซบอลลาห์ในเลบานอนจะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในความขัดแย้งนี้ได้แค่ไหน
เมื่อเดือนที่แล้ว สหรัฐฯ ได้ส่งกองเรือรบที่ 2 ไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก เพื่อเตือนอิหร่านและเฮซบอลลาห์ ให้อยู่ห่างจากความขัดแย้งอิสราเอล-ฮามาส
ผู้นำกลุ่มเฮซบอลลาห์ ฮาสซาน นาสราลลาห์ ออกมาตอบโต้ว่า กลุ่มติดอาวุธเฮซบอลลาห์ ซึ่งครอบครองขีปนาวุธต่อต้านเรือนั้น "เตรียมการอย่างดีสำหรับกองเรือของพวกคุณ" ซึ่งหมายถึงสหรัฐฯ
นั่นกลายเป็นสิ่งที่สร้างการคาดเดาขึ้นมา และนำไปสู่การเผยแพร่ข้อมูลเท็จและข้อมูลบิดเบือนบนสื่อสังคมออนไลน์
Nexta สื่อเบลารุส ที่มีสำนักงานใหญ่ในโปแลนด์ และมีผู้ติดตามบนสื่อสังคมออนไลน์ X มากกว่า 1 ล้านราย โพสต์วิดีโอที่แสดงให้เห็นส่วนของหัวรบขีปนาวุธของเฮซบอลลาห์ โดยโพสต์ดังกล่าวมีการระบุข้อความว่า:
"เฮซบอลลาห์เผยแพร่วิดีโอที่แสดงให้เห็นขีปนาวุธต่อต้านเรือ หลังจากสื่อรายงานการมาถึงของเรือรบสหรัฐฯ ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก”
ข้อความดังกล่าวเป็นสิ่งที่ "สร้างความเข้าใจผิด" เนื่องจากวิดีโอดังกล่าวมาจากกลุ่มเฮซบอลลาห์ โดยเป็นคลิปที่เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อปี 2019 และไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อตอบโต้การเดินเรือของสหรัฐฯ ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
โพสต์ที่ปรากฎในสื่อสังคมออนไลน์ X (เดิมคือทวิตเตอร์) มีการระบุว่าโพสต์ของ Nexta เชื่อมโยงกับโพสต์ในแพลตฟอร์มนี้ ที่มีวิดีโออันเดียวกันอยู่ เมื่อเดือนกันยายนปี 2019 ซึ่งในวิดีโอเดียวกันนี้ มีข้อความระบุว่า:
“เฮซบอลลาห์แสดงขีปนาวุธ 'ที่มีศักยภาพในการจมเรือรบใด ๆ ก็ได้' "
“เฮซบอลลาห์ เผยขีปนาวุธ 'ที่สามารถทำลายเรือรบทุกประเภท และทำลายล้างทุกคนที่อยู่บนเรือ' "
"ขีปนาวุธดังกล่าวเหมือนกับขีปนาวุธที่โจมตีเรือรบอิสราเอล INS Hanit ในช่วงสงครามเมื่อปี 2006"
“ข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับความขัดแย้งยังคงมีอิทธิพลบนสื่อสังคมออนไลน์อยู่”
แม้ว่าจะมีการระบุข้อมูลชี้แจงเกี่ยวกับเนื้อหาดังกล่าวบนแพลตฟอร์ม X แต่ Nexta ยังคงไม่ถอดวิดีโอดังกล่าวออกไปจากแพลต์ฟอร์ม และโพสต์นี้มียอดชมมากกว่า 750,000 ครั้งทีเดียว
หน่วยงานตรวจสอบความจริง โดยองค์กรสื่ออินเดีย BOOM ยืนยัน ข้อมูลการแจ้งเตือนในชุมชนสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าว และเสริมว่า “วิดีโอนี้มาจากปี 2019 และปรากฏในสารคดีที่เกี่ยวกับพรรคการเมืองเลบานอนและกลุ่มติดอาวุธเฮซบอลลาห์ ที่โจมตีเรืออิสราเอลในสงครามเมื่อปี 2006”
แต่จนถึงขณะนี้ บัญชีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ X ที่ได้รับการยืนยันตัวตนบนแพลตฟอร์ม ยังคงโพสต์ เนื้อหา วิดีโอเดียวกัน หรือไม่ก็ระบุว่าคลิปดังกล่าวเป็นคลิปใหม่ หรือไม่ก็ไม่ยอมระบุว่าเนื้อหาวิดีโอเป็นคลิปเก่าเมื่อ 4 ปีก่อนแล้ว
กลุ่มเฮซบอลลาห์ องค์กรการเมืองมุสลิมชีอะห์ที่มีอิหร่านหนุนหลัง และมีกองกำลังที่มีอำนาจกว่ากองทัพเลบานอน ได้จำกัดปฏิบัติการทางทหารเฉพาะการโจมตีข้ามพรมแดนกับอิสราเอล
กลุ่มติดอาวุธเฮซบอลลาห์ ซึ่งวางบทบาทของตนในฐานะกลุ่มแข็งข้อต่อต้านอิสราเอล ได้ข่มขู่ว่าจะยกระดับความขัดแย้ง โดยกลุ่มติดอาวุธนี้มีคลังแสงจรวดและขีปนาวุธขนาดใหญ่
แต่ขีปนาวุธที่ปรากฏในวิดีโอที่แชร์โดย Nexta และบัญชีผู้ใช้รายอื่น ๆ นั้นไม่ใช่ของใหม่
อ้างอิงข้อมูลจากโครงการ Missile Defense Project ที่ริเริ่มโดยศูนย์ Center for Strategic and International Studies หรือ CSIS สถาบันคลังสมองในกรุงวอชิงตัน ระบุว่าอิหร่านได้พัฒนาขีปนาวุธ C-802 ของตนเองในชื่อ Noor ซึ่งถูกจัดส่งให้กับกลุ่มเฮซบอลลาห์ ตามการเปิดเผยของกลุ่มคลังสมอง “ขีปนาวุธ C-802s ของเฮซบอลลาห์ มีแนวโน้มที่จะถูกเก็บรักษาและใช้งานโดยอิหร่าน”
จีนเปิดตัวขีปนาวุธ C-802 เมื่อปี 1989 อ้างอิงข้อมูลจาก CSIS อิหร่านได้ซื้อขีปนาวุธนับสิบลูกจากจีนในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 จนกระทั่งรัฐบาลวอชิงตันกดดันให้ยุติการซื้อขายขีปนาวุธดังกล่าว
กลุ่มเฮซบอลลาห์ยังครอบครอง Yakhont ขีปนาวุธร่อนต่อต้านเรือที่พัฒนาโดยรัสเซีย ซึ่งสามารถปล่อยจรวดได้ทั้งอากาศ ภาคพื้น และจากเรือดำน้ำ
สถาบันคลังสมอง CSIS ระบุว่า กลุ่มเฮซบอลลาห์โจมตีเรือรบอิสราเอล INS Hanit เมื่อ 4 กรกฎาคม 2006 ด้วยขีปนาวุธต่อต้านเรือพิสัยกลาง C-802
เรือรบอิสราเอลมีศักยภาพในการป้องกันตนเองจากการโจมตีในครั้งนี้ได้ และการโจมตีที่เกิดขึ้นไม่ได้มีต้นตอมาจากความล้มเหลวด้านข่าวกรอง
แต่ในข้อมูลที่ค้นพบในการสืบสวน ชี้ว่าลูกเรือได้ปิดระบบป้องกันขีปนาวุธ Barak ของเรือ รบอิสราเอล INS Hanit ซึ่งมีศักยภาพในการสกัดขีปนาวุธ C-802 เนื่องจากพวกเขาไม่เชื่อว่าอิหร่านครอบครองอาวุธลักษณะดังกล่าว
ระหว่างที่บัญชีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ X ได้ฉายภาพของภัยอันตรายจากขีปนาวุธเหล่านี้ ซึ่งเป็นเรื่องจริง และกองเรือสหรัฐฯ ทั้ง 2 ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ได้มีการวางระบบป้องกันที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับภัยคุกคามดังกล่าว
ระบบป้องกันก็มีทั้งระบบป้องกันขีปนาวุธวิถีโค้ง Aegis ที่ติดตั้งบนเรือพิฆาตของกองเรือสหรัฐฯ
เมื่อเดือนที่แล้ว หนึ่งในเรือพิฆาต USS Carney ยิงจรวดและโดรนที่ยิงมาจากเยเมน
ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้โดย Polygraph.info การใช้ภาพเก่าในทางที่ผิดและการระบุแหล่งที่มาของภาพเก่าอย่างไม่ถูกต้องได้กลายเป็นกลยุทธ์การบิดเบือนข้อมูลอันเป็นเอกลักษณ์ของสงครามอิสราเอล-ฮามาส
ตัวอย่างของกลยุทธ์บิดเบือนข้อมูลดังกล่าว ก็มีทั้งความพยายามในการใช้ภาพฟุตเทจจากสงครามซีเรีย ภาพของการทดสอบขีปนาวุธอินเดีย ภาพของกิจกรรมทางการทหารในฟิลิปปินส์ และภาพของหลักสูตรการเรียนการสอนของพิธีฝังศพอิสลาม — ซึ่งมีแนวโน้มว่าเป็นสิ่งเกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ — เพื่อนำมาเชื่อมโยงกับความขัดแย้งอิสราเอล-ฮามาส
ทั้งนี้ ผู้ใช้โซเชียลมีเดีย X ที่ได้รับเครื่องหมายรับรองสีฟ้าหลายราย ยังคงเป็นแหล่งข้อมูลเท็จและข้อมูลบิดเบือนรายใหญ่เกี่ยวกับสงครามอิสราเอล-ฮามาสที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้
- ที่มา: ฝ่าย Polygraph วีโอเอ