ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ตรวจสอบข่าว: อดีตหัวหน้าทีมสำรวจอวกาศรัสเซียย้ำความเชื่อ สหรัฐฯ ไม่เคยส่งยานไปดวงจันทร์สำเร็จ


From left: The Apollo 11 astronauts, Neil Armstrong, Michael Collins, and Edwin Aldrin Jr. are met by Former U.S. President Richard M. Nixon while in mobile quarantine aboard the U.S.S. Hornet in the Pacific Ocean in July 1969.
From left: The Apollo 11 astronauts, Neil Armstrong, Michael Collins, and Edwin Aldrin Jr. are met by Former U.S. President Richard M. Nixon while in mobile quarantine aboard the U.S.S. Hornet in the Pacific Ocean in July 1969.
ดมิทรี โรโกซิน

ดมิทรี โรโกซิน

อดีตหัวหน้าหน่วยงานสำรวจอวกาศ 'รอสคอสมอส' ของรัสเซีย

"ไม่มีข้อพิสูจน์ว่า สหรัฐฯ เคย[ส่งยาน]ลงจอดบนดวงจันทร์"

เท็จ

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา ดมิทรี โรโกซิน อดีตหัวหน้าหน่วยงาน ‘รอสคอสมอส’ (Roscosmos) ซึ่งดูแลกิจการอวกาศของรัสเซีย ออกมารับรองทฤษฎีสมคบคิด “เรื่องหลอกลวงเกี่ยวกับการไปดวงจันทร์ของสหรัฐฯ” ผ่านโพสต์ทางแอปเทเลแกรมอีกครั้ง

โรโกซิน กล่าวว่า เขาใช้เวลาหลายปี แต่ไม่สามารถหาหลักฐานว่า สหรัฐฯ เคยส่งยานอวกาศไปจอดบนดวงจันทร์ได้เลย โดยระบุว่า “ผมหาความชัดเจนไม่ได้เลยว่า ด้วยระดับพัฒนาการด้านเทคโนโลยี [ในคริสต์ทศวรรษที่ 1960] สหรัฐฯ สามารถทำในสิ่งที่แม้แต่ปัจจุบันยังทำไม่ได้ ได้อย่างไร?”

สถานีโทรทัศน์ RT ของรัฐบาลรัสเซีย รายงานความเห็นของโรโกซินดังนี้:

“ไม่มีหลักฐาน [ว่า] สหรัฐฯ เคยไปดวงจันทร์ – อดีตหัวหน้างานด้านอวกาศของรัสเซีย [กล่าว]”

นั่นเป็นความเท็จ

สหรัฐฯ ดำเนินภารกิจส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ถึง 6 ครั้งในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1969 ถึง 1972 โดยมีนักบินอวกาศ 24 คนเข้าร่วมเดินทางไปด้วย และ 12 คนในนั้นได้ลงไปเดินบนดวงจันทร์ด้วย

ยานอพอลโล 11 คือ ยานอวกาศอเมริกันลำแรกที่พามนุษย์ไปถึงดวงจันทร์ โดยในภารกิจที่เกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 1969 นั้น นักบินอวกาศได้นำแผงกระจกสะท้อนเลเซอร์ หรือ retroreflector ติดไปด้วย ก่อนที่ทีมนักบินอวกาศของภารกิจยานอพอลโลครั้งต่อมายังได้นำอุปกรณ์นี้ไปติดตั้งบนดวงจันทร์ด้วย

The Apollo 11 Command Module, Columbia, carried three astronauts to the moon on the first lunar landing mission in July, 1969. (Deborah Block/VOA)
The Apollo 11 Command Module, Columbia, carried three astronauts to the moon on the first lunar landing mission in July, 1969. (Deborah Block/VOA)

นักวิทยาศาสตร์สามารถยิงเลเซอร์ไปยังแผนกระจกที่ว่ายังวัดคำนวณระยะเวลาที่ลำแสงใช้เดินทางไปกลับจากดวงจันทร์ โดยองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซ่า กล่าวว่า ข้อมูลนี้นำเสนอ “เกณฑ์การวัดที่แม่นยำของวงโคจรและรูปร่างของดวงจันทร์ ซึ่งรวมถึงด้านที่ว่า [ดวงจันทร์นั้น] เปลี่ยนแปลงไปอย่างเล็กน้อยเพราะแรงดึงดูดจากโลกอย่างไรบ้าง”

นาซ่า กล่าวว่า “งานวิจัยกับกระจกสะท้อนเลเซอร์จากดวงจันทร์ในช่วงทำภารกิจอพอลโลยังคงดำเนินอยู่จนถึงทุกวันนี้”

นักบินอวกาศยังติดตั้งเครื่องตรวจวัดแผ่นดินไหว (seismometer) ไว้บนพื้นผิวดวงจันทร์เพื่อตรวจจับ “แผ่นดินไหวบนดวงจันทร์” (moonquake) และ “นำส่งข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างภายในของดวงจันทร์” ด้วย

U.S. astronaut Edwin "Buzz" Aldrin, one of three Apollo 11 astronauts, during the lunar landing mission on July 20, 1969. (NASA/Via Reuters)
U.S. astronaut Edwin "Buzz" Aldrin, one of three Apollo 11 astronauts, during the lunar landing mission on July 20, 1969. (NASA/Via Reuters)

ทั้งนี้ ยังมีการติดตั้งเครื่องตรวจวัดแผ่นดินไหวที่ล้ำสมัยขึ้นบนดวงจันทร์ที่นำส่งข้อมูลต่าง ๆ กลับมายังโลกจนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1977 ด้วย

นักบินอวกาศยังนำหลักฐานเชิงกายภาพเป็นจำนวน 382 กิโลกรัมจากดวงจันทร์กลับมายังโลกด้วย โดยหลักฐานที่ว่านั้นคือ ก้อนหิน หินกรวด ทราย ฝุ่น และตัวอย่างแกนดวงจันทร์

ตัวอย่างทั้งหลายที่นักบินอวกาศรวบรวมมาทั้งหมด 2,169 รายการนั้นมีการจัดเก็บบันทึกข้อมูลลงในบัญชีรายชื่อเรียบร้อยแล้ว และตัวอย่างหลายรายการยังถูกนำไปตรวจสอบโดยนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกด้วย ขณะที่ ตัวอย่างบางรายการนั้นเพิ่งถูก ‘เปิดผนึก’ นำออกมาให้มีการตรวจสอบเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง

ในเดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ. 2008 ยานอวกาศที่องค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (Japan Aerospace Exploration Agency) ส่งไปโคจรรอบดวงจันทร์ได้ถ่ายภาพของร่องรอย “วงแหวนรัศมี” (halo) ที่ส่วนของยานอพอลโล 15 ซึ่งแล่นลงบนดวงจันทร์ทิ้งไว้ ขณะลงจอดในเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 1971

ภาพถ่าย 3มิติ ที่ได้จากข้อมูลซึ่งยานอวกาศโคจรรอบดวงจันทร์ของญี่ปุ่น “แสดงให้เห็นภูมิทัศน์ที่ดูคุ้นเคย” คล้ายกับภาพที่นักบินอวกาศยานอพอลโล 15 รายหนึ่งเคยถ่ายไว้

และในปีถัดมา ยานสำรวจดวงจันทร์ Lunar Reconnaissance Orbiter ของนาซ่า ทำแผนที่พื้นผิวดวงจันทร์ขึ้นมา และยังได้ถ่ายภาพบริเวณที่ยานอพอลโล 11 14 15 16 และ 17 เคยลงจอดมาร่วมใช้ในกระบวนการนี้ด้วย

และในบรรดาภาพถ่ายเหล่านั้น มีภาพที่แสดงให้เห็นรอยเท้าของนักบินอวกาศบนดวงจันทร์ด้วย

ภาพถ่ายที่นาซ่าเปิดเผยออกมาเพิ่มในปี ค.ศ. 2011 ยังแสดงให้เห็นร่องรอยการสำรวจที่นักบินอวกาศทิ้งไว้ระหว่างออกเดินสำรวจดวงจันทร์ รวมทั้งเครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ถูกทิ้งไว้บนดวงจันทร์ เช่น ฐานของยานที่แล่นลงบนดวงจันทร์ เป็นต้น

ทั้งนี้ ภารกิจอพอลโลนั้นยังได้ถ่ายภาพไว้หลายพันภาพ และบันทึกคลิปวิดีโอและคลิปเสียงที่มีความยาวรวมกันหลายพันชั่วโมงด้วย

นักวิทยาศาสตร์เปิดเผยว่า คนจำนวนมหาศาลที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในภารกิจส่งยานอวกาศไปดวงจันทร์ คือ ปัจจัยที่ทำให้การแต่งเรื่องนี้ขึ้นมาหลอกลวงผู้คนดูเป็นไปไม่ได้เลย

ริค ไฟน์เบิร์ก เจ้าหน้าที่ด้านสื่อของ American Astronomical Society บอกกับ History.com ในปี ค.ศ. 2019 ว่า “มีนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร ผู้ชำนาญด้านเทคโนโลยี ช่างเครื่อง ช่างไฟ ถึงราว 400,000 คนที่ร่วมทำงานในโครงการอพอลโล” และว่า “ถ้าหากในความเป็นจริงนั้น แรงจูงใจหลักของการจะเชื่อเรื่องหลอกลวงของภารกิจดวงจันทร์ก็คือ การที่คุณไม่เชื่อใจรัฐบาล คุณไม่เชื่อใจในผู้นำของเรา คุณไม่เชื่อใจทางการ แล้วคุณคิดว่า คนถึง 400,000 คนจะปิดปากเงียบมาถึง 50 ปีได้อย่างไร มันเชื่อได้ยากมากเลย”

ทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับการลงจอดบนดวงจันทร์นั้นไม่ได้เป็นประเด็นที่ได้รับความนิยมนักในยุคสหภาพโซเวียต ในช่วงเวลาที่มีการแข่งขันพัฒนาโครงการด้านอวกาศ (space race) หรือการแข่งขันระหว่างสองคู่อริในสงครามเย็นไปให้ถึงจุดที่ตนมีศักยภาพด้านการพัฒนายานอวกาศที่เหนือกว่าอีกฝ่ายให้ได้

หนังสือพิมพ์ Guardian ของอังกฤษทำรายงานข่าวเกี่ยวกับทฤษฎีสมคบคิดการส่งยานลงจอดบนดวงจันทร์ในปี ค.ศ. 2019 ที่ระบุว่า โซเวียตนั้น “มีหนทางที่จะเปิดโปงอเมริกาในช่วงเวลานั้นได้” เพราะพวกเขา “แอบฟังอยู่”

แต่สิ่งที่ดูย้อนแย้งยิ่งกว่าก็คือ แทนที่จะปั่นข่าวทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับยานสหรัฐฯ บนดวงจันทร์ สหภาพโซเวียตกลับมัวแต่ปฏิเสธกรณีที่โครงการส่งยานอวกาศไปยังดวงจันทร์ของตนเองล้มเหลว

อย่างไรก็ดี ความรู้สึกของประชาชนในรัสเซียเปลี่ยนไป หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต

The Soviet flag flies over the Kremlin at Red Square in Moscow, Russia on December 21, 1991, just days before the Soviet Union officially collapsed.
The Soviet flag flies over the Kremlin at Red Square in Moscow, Russia on December 21, 1991, just days before the Soviet Union officially collapsed.

การสำรวจความคิดเห็นเมื่อปี ค.ศ. 2020 โดยหน่วยงาน VTSIOM ของรัฐบาลเครมลิน พบว่า ชาวรัสเซียเกือบครึ่งหนึ่งเชื่อว่า รัฐบาลสหรัฐฯ สร้างเรื่องการส่งยานลงจอดบนดวงจันทร์ในปี ค.ศ. 1969

แต่ชาวรัสเซียผู้มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วคนหนึ่งไม่เคยยอมรับทฤษฎีสมคบคิดนี้เลย และเขาก็คือ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน นั่นเอง

ในระหว่างการร่วมสัมมนาของค่ายเยาวชนเซลิเกอร์ (Seliger) ใน ปี ค.ศ. 2001 มีผู้ถามปธน.ปูตินว่า เขาเชื่อว่า คนอเมริกันได้ไปดวงจันทร์จริงหรือไม่

ปูติน ตอบคำถามนี้ว่า มันเกือบจะเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ที่จะ “ปลอมแปลง” เหตุการณ์เช่นนั้น

ผู้นำรัสเซียยังเปรียบเทียบทฤษฎีสมคบคิดเรื่องการไปดวงจันทร์กับการกล่าวอ้างอย่างผิด ๆ ว่า สหรัฐฯ เป็นผู้ก่อเหตุการณ์ก่อการร้าย 11 กันยายน ปี ค.ศ. 2011 ด้วย

ปูติน กล่าวว่า คำกล่าวอ้างเหล่านั้น “เป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี”

  • ที่มา: ฝ่าย Polygraph วีโอเอ
XS
SM
MD
LG