สื่อสังคมออนไลน์ เฟสบุ๊ค สั่งห้ามผู้ใช้งานแอปของตนในออสเตรเลียแชร์หรือหาข่าวใดๆ หลังรัฐบาลกรุงแคนเบอร์ราเดินหน้าผ่านร่างกฎหมายใหม่ที่จะบังคับให้บริษัทเทคโนโลยีควักกระเป๋าจ่ายค่าโพสต์เนื้อหาข่าวจากสื่อต่างๆ บนแพลตฟอร์มของตน
รายงานข่าวระบุว่า แผนงานล่าสุดของเฟสบุ๊คเป็นเหมือน “ลูกระเบิด” ลงออสเตรเลีย ขณะที่ รัฐบาลกรุงแคนเบอร์รา ยืนยันว่าจะเดินหน้าผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว โดยรัฐมนตรีหลายรายออกมาให้ความเห็นว่า คำสั่งห้ามผู้ใช้งานในออสเตรเลียนี้ แสดงให้เห็นถึง “อำนาจทางการตลาดอันมหาศาลของยักษ์ใหญ่ธุรกิจสื่อสังคมดิจิทัลเหล่านี้”
ทั้งนี้ ในแต่ละเดือนมีผู้ใช้งานเฟสบุ๊คในออสเตรเลียราว 17 ล้านคน
ล่าสุด ร่างกฎหมายนี้ได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรออสเตรเลียไปแล้ว และคาดว่าจะได้รับการรับรองขั้นสุดท้ายโดยวุฒิสภาภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะทำให้ออสเตรเลียกลายมาเป็นประเทศแรกที่บังคับให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น เฟสบุ๊ค และ กูเกิล ให้ต้องจ่ายค่าใช้งานเนื้อหาข่าว
ขณะเดียวกัน พอล เฟล็ทเชอร์ รัฐมนตรีการสื่อสารออสเตรเลีย ออกมาวิจารณ์ท่าทีของเฟสบุ๊ค โดยระบุว่า บริษัทสื่อสังคมออนไลน์ชั้นนำแห่งนี้ต้องคิดให้ถี่ถ้วนว่า คำสั่งห้ามล่าสุดจะส่งผลอย่างไรต่อชื่อเสียงและจุดยืนของตน เพราะแผนการล่าสุดนี้เหมือนการประกาศว่า แพลตฟอร์มของตนไม่ใช่พื้นที่สำหรับการเผยแพร่ข้อมูลจากองค์กรที่จ้างงานผู้สื่อข่าว และว่า ข้อมูลใดๆ จากเว็บไซต์ของตนไม่ได้มาจากแหล่งที่เชื่อถือได้อีกด้วย
ทั้งนี้ การเร่งผ่านกฎหมายดังกล่าวของออสเตรเลีย เป็นประเด็นที่หลายประเทศ เช่น แคนาดา และสหภาพยุโรป กำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิด บางประเทศได้เริ่มดำเนินการกดดันบริษัทเทคโนโลยีในเรื่องนี้บ้างแล้ว เช่น ฝรั่งเศส
เฟสบุ๊ค กล่าวว่า กฎหมายนี้ คือ “ความเข้าใจผิดขั้นพื้นฐาน” เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างตัวบริษัทและสำนักพิมพ์-สำนักข่าวต่างๆ ขณะที่ บริษัทเทคโนโลลียักษ์ใหญ่ เช่น กูเกิล แย้งด้วยว่า การใช้เนื้อหาข่าวสารจากสำนักต่างๆ กลับจะช่วยดึงผู้ใช้งานไปยังเว็บไซต์ของแต่ละแห่งและช่วยสร้างรายได้เพิ่มให้กับบริษัทสื่อต่างๆ ด้วย
ในช่วงราว 2 ทศวรรษที่ผ่านมา สื่อและสำนักข่าวทั่วโลกร้องเรียนมาเสมอว่า บริษัทอินเทอร์เน็ตทั้งหลายร่ำรวยขึ้นจากการทำงานของพวกตน พร้อมขายโฆษณาที่ติดมากับรายงานข่าวของสำนักสื่อหลายแห่งโดยไม่มีการแบ่งปันรายได้ให้เลย
จอช ไฟรเดนเบิร์ก นายธนารักษ์แห่งกรมธนารักษ์ออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กูเกิล คุมรายได้จากการลงโฆษณาออนไลน์ถึง 53 เปอร์เซ็นต์ในออสเตรเลีย ส่วนเฟสบุ๊คนั้น คุมรายได้สัดส่วน 23 เปอร์เซ็นต์อยู่
ก่อนหน้านี้ กูเกิล ขู่ว่าจะถอนการให้บริการของตนในออสเตรเลีย หากรัฐบาลไม่ยกเลิกแผนผ่านร่างกฎหมายนี้ ที่จะนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการรับหน้าที่ตัดสินใจเรื่องการคิดราคาค่าใช้ข่าวต่อไป