โพลสำรวจความเห็นล่าสุดในอินโดนีเซีย พบว่า ปราโบโว ซูเบียนโต อดีตนายพลและลูกเขยของอดีตผู้นำเผด็จการ ได้รับคะแนนนิยมนำมาเป็นอันดับหนึ่งในฐานะผู้ลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดี และคาดว่าจะได้คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งในการเลือกตั้งในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้
ประชาชน 1,200 คนที่ร่วมทำแบบสอบถามที่จัดทำโดยอินดิกาตอร์ โปลิติก (Indikator Politik) ระหว่างวันที่ 28 มกราคมถึง 4 กุมภาพันธ์ จำนวน 51.8% ระบุว่าจะโหวตลงคะแนนเสียงให้กับปราโบโว และอีก 24.1% และ 19.6% จะโหวตให้กับคู่แข่งอย่างอานีส บัสวีดัน และกันจาร์ ปราโนโว ตามลำดับ
อดีตนายพลผู้เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงชิงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของอินโดนีเซียเป็นครั้งที่สามแล้ว โดยไม่สามารถเอาชนะโจโก วิโดโด ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2014 และ 2019 ได้ โดยในครั้งนี้ มีประชาชนราว 205 ล้านคนที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงที่กำลังจะมาถึง
ปราโบโวเป็นบุตรเขยของอดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โต ผู้นำเผด็จการที่ปกครองอินโดนีเซียยาวนาน 31 ปี ตัวเขาถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวนักกิจกรรมนักศึกษาในปี 1998 และละเมิดสิทธิมนุษยชนในติมอร์ตะวันออกและปาปัว ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ยังไม่ได่รับการพิสูจน์ และปราโบโวก็ปฏิเสธมาตลอด
โพลของ Indikator Politik เป็นการสำรวจความเห็นที่ชาวอินโดนีเซียจับตามองมากที่สุด และแม้ที่ผ่านมาปราโบโวจะมีคะแนนนิยมในโพลนี้มากที่สุด แต่ผลสำรวจครั้งล่าสุด เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับความนิยมมากกว่า 50%
บาร์ฮานุดดิน มูห์ตาดิ นักวิจัยจาก Indikator ระบุว่าค่าความนิยมของปราโบโวล่าสุดนี้ ทำให้ความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเลือกตั้งรอบสองในเดือนมิถุนายน ในกรณีที่ไม่มีผู้ลงสมัครรายใดได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่งมีโอกาสน้อยลง
ผลสำรวจครั้งล่าสุดมีขึ้นระหว่างที่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ตัว ปธน.โจโก วิโดโด เพิ่มสูงขึ้น หลังถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนปราโบโวแบบไม่เปิดเผย เช่นการปรากฏตัวร่วมกับวิโดโดตามสถานที่ราชการ โดยพันธมิตรของวิโดโดได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
วิโดโดยังไม่ประกาศสนับสนุนผู้สมัครรายใดอย่างเปิดเผย ทั้งนี้ ยิบราน รากาบูมิง รากา บุตรชายของวิโดโด เป็นผู้สมัครรอง ปธน. ร่วมกับปราโบโว หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินเปลี่ยนคุณสมบัติผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเปิดทางให้
ผู้ให้ความเห็นกับ Indikator จำนวนเกือบ 90% เชื่อว่า ปธน.วิโดโดสนับสนุนวิโดโดมากกว่าผู้สมัครรายอื่น แม้กระทั่งอะนีสและกันจาร์ ซึ่งมาจากพรรคการเมืองที่วิโดโดสังกัด
โดยทั่วไป ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในอินโดนีเซียจะมีท่าทีเป็นกลาง แม้กฎหมายอินโดนีเซียจะอนุญาตให้สามารถช่วยหาเสียงได้ ตราบใดที่ไม่ได้ใช้งบประมาณรัฐ โดยวิโดโด ซึ่งดำรงตำแหน่งครบ 2 วาระ และไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งต่อได้แล้วตามรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า เขาจะไม่ช่วยผู้สมัครรายใดหาเสียง
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น