หน่วยงานกำกับดูแลด้านยาแห่งสหภาพยุโรป อนุมัติการใช้ยาต้านโควิดอีก 2 ชนิดในกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป
แถลงการณ์จากองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) เมื่อวันพฤหัสบดี ระบุว่า ทาง EMA ออกคำแนะนำการใช้ยาต้านโควิด-19 2 ชนิด ได้แก่ Kineret ที่พัฒนาโดยบริษัทยา Orphan Biovitrum ของสวีเดน และ Xevudy ซึ่งเป็นยารักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ผลิตโดยบริษัท GlaxoSmithKline ของสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ทาง EMA อนุมัติการใช้ยา Kineret ในรูปแบบของยาลดอาการอักเสบ แต่ในแถลงการณ์ล่าสุด ทางหน่วยงานกำกับดูแลด้านยาแห่งสหภาพยุโรป แนะให้สามารถใช้ยาชนิดนี้ในการรักษาโควิด-19 กับผู้ป่วยวัยผู้ใหญ่ที่มีภาวะปอดบวม ผู้ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจระหว่างการรักษาตัว และผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน ซึ่งทาง EMA ระบุว่ายา Kineret จะลดอาการอักเสบที่เกี่ยวเนื่องจากโควิด-19 ลดความเสียหายจากระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง และป้องกันไม่ให้ลุกลามเป็นภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน
ส่วนกรณีของยา Xevudy ทาง EMA อนุมัติการใช้ยาดังกล่าวกับผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่อาการยังไม่ถึงขั้นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงที่จะมีอาการป่วยรุนแรงขึ้นได้ โดย EMA อ้างข้อมูลที่ระบุว่ายา Xevudy เป็นกลุ่มยาโมโนโคลนอลแอนติบอดี (monoclonal antibody drug) ซึ่งมีประสิทธิผลในการป้องกันอาการเจ็บป่วยรุนแรงจากโควิด-19
นอกจากนี้ ทาง EMA ยังให้คำแนะนำการใช้ยา Paxlovid ยาต้านโควิด-19 ที่ผลิตโดยบริษัทไฟเซอร์ ระหว่างที่ยาชนิดนี้ยังไม่ได้รับการอนุมัติการใช้จากสหภาพยุโรป โดยระบุว่ายา Paxlovid ของไฟเซอร์ สามารถใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในวัยผู้ใหญ่ที่ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงขึ้นได้ และแนะว่าควรมีการจ่ายยาชนิดนี้ทันทีที่ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือภายใน 5 วันหลังพบอาการของโควิด-19
โดยภายใต้คำแนะนำการใช้ดังกล่าว จะทำให้ตอนนี้กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป สามารถใช้ยา Paxlovid ของไฟเซอร์ได้โดยไม่ต้องรอการอนุมัติจาก EMA อย่างเป็นทางการได้
ทั้งนี้ เมื่อวันอังคาร ทางบริษัทไฟเซอร์ เผยการศึกษาที่พบว่า การทดสอบยาต้านไวรัสโควิด-19 Paxlovid ของไฟเซอร์ มีประสิทธิผลช่วยลดความเสี่ยงการเจ็บป่วยหนักและการเสียชีวิตที่ระดับ 89% หลังจากได้รับยาภายใน 3 วันที่พบอาการของโควิด-19 และลดความเสี่ยงการป่วยหนักได้ 88% หากได้รับยาภายใน 5 วันที่พบอาการ ซึ่งรวมถึงโควิดกลายพันธุ์โอมิครอนด้วย โดยไฟเซอร์เตรียมยื่นผลการศึกษาเบื้องต้นนี้เพื่อขออนุมัติการใช้ยาดังกล่าวกับทางสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯต่อไป
มีเนื้อหาบางส่วนจาก AFP