รัฐบาลบางประเทศในยุโรปเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมและป้องกันการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่เพิ่มเติม เพื่อช่วยภาคธุรกิจท่องเที่ยวให้เปิดทำการมาพยุงสภาพเศรษฐกิจของตนแล้ว
รัฐบาลกรีซคือหนึ่งในผู้ที่อนุญาตธุรกิจร้านกาแฟและภัตตาคารร้านอาหารเริ่มเปิดทำการได้อีกครั้งในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น โดยยังคงบังคับใช้หลักปฏิบัติการรักษาระยะห่างทางสังคมไว้ ขณะที่ยินยอมให้เกาะต่างๆ ที่ปิดไม่ให้ผู้คนเข้าออกเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง แต่อนุญาตเฉพาะนักเดินทางจากภายในประเทศเท่านั้น เพราะรัฐบาลยังไม่มีแผนเปิดรับคนต่างชาติเข้าประเทศไปจนถึงกลางเดือนมิถุนายนเป็นอย่างเร็ว
ธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของเศรษฐกิจกรีซ ซึ่งทำการ Lockdown ประเทศเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 มาระยะหนึ่งแล้ว แม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ระดับไม่ถึง 3,000 คนจะต่ำกว่าสถิติของสมาชิกสหภาพยุโรปอีกหลายแห่งก็ตาม
ส่วนที่สเปน รัฐบาลอนุญาตให้หาดบางแห่งเปิดรับผู้คนอีกครั้ง และมีการรวมกลุ่มของคนมากกว่า 10 คนได้แล้วในกรุงแมดริดและนครบาร์เซโลนา ขณะที่ยินยอมให้พิพิธภัณฑ์เปิดทำการรับผู้เข้าชมจำนวนไม่มากได้ และให้ไฟเขียวแก่ร้านอาหารเปิดพื้นที่กลางแจ้งครึ่งหนึ่งเพื่อรับลูกค้าด้วย
และในวันจันทร์นี้เช่นกัน รัฐบาลฝรั่งเศสยกเลิกการปิดพรมแดนเพื่อให้แรงงานต่างด้าวและนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ ในยุโรปสามารถเดินทางเข้าประเทศได้แล้ว
ในส่วนของสถานการณ์การระบาดทั่วโลกนั้น บราซิลรายงานพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้น 653 ราย หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นต่อเนื่องทะลุระดับ 360,000 คน ที่ทำให้บราซิลยังเป็นประเทศที่มีการระบาดหนักเป็นอันดับ 2 ของโลกต่อไป
และขณะที่สถานการณ์ในเกาหลีใต้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่น่ากังวลนัก รัฐบาลวางแผนที่จะตั้งกฎให้ผู้ที่ใช้บริการแท๊กซี่และบริการขนส่งสาธารณะต้องสวมหน้ากากอนามัย หลังประกาศบังคับใช้กฎนี้สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยเที่ยวบินทั้งภายในและภายนอกประเทศ ให้มีผลตั้งแต่วันพุธนี้เป็นต้นไปแล้ว
และมีรายงานข่าวว่า ภาวการณ์ระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ส่งผลให้อัตราการเกิดอาชญากรรมในหลายประเทศลดลงอย่างชัดเจน เช่น เอล ซาลวาดอร์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีรายงานเหตุฆาตกรรมสูงระดับต้นๆ ของโลก กลับไม่พบเหตุการณ์ฆาตกรรมเลยเป็นเวลา 4 วัน ขณะที่ กัวเตมาลา และ ฮอนดูรัส ซึ่งอยู่ติดๆ กัน รายงานการลดลงของเหตุฆาตกรรมอย่างมากเช่นกัน