รัฐสภายุโรปมีมติท่วมท้น 621 ต่อ 49 เสียง เปิดทางให้อังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรปได้ในที่สุด หลังจากเลื่อนกรอบเวลาเบร็กซิตมาหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา
ระหว่างการลงมติในสภายุโรปเมื่อค่ำวันพุธที่ผ่านมา มีทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและคัดค้าน และมีฝ่ายที่ใช้เวทีนี้ผลักดันให้มีการพิจารณาว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นกับเงื่อนไขการรวมกลุ่มของสหภาพยุโรป ที่นำไปสู่จุดแตกหักระหว่างอังกฤษกับอียู หนึ่งในประเทศที่อยู่ในสหภาพยุโรปมายาวนานเช่นนี้
หลังจากได้รับความเห็นชอบจากสหภาพยุโรป อังกฤษยังต้องเจออุปสรรคขั้นต่อไป คือ การเจรจาถึงทิศทางความสัมพันธ์ของอังกฤษและอียู โดยเฉพาะประเด็นการค้าระหว่างกัน
ด้านนางออร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ให้คำมั่นว่าอียูพร้อมที่จะสร้างบรรยากาศการค้าการลงทุนที่มีการแข่งขันอย่างเท่าเทียม และอำนวยความสะดวกให้อังกฤษในการเข้าถึงตลาดอียูให้ได้มากที่สุด ตราบเท่าที่อังกฤษปฏิบัติตามมาตรฐานการค้าและให้สิทธิแรงงานที่เท่าเทียมกับทางอียู
ขณะที่วันสุดท้ายที่อังกฤษจะอยู่ในสหภาพยุโรป คือวันศุกร์ที่ 31 มกราคมนี้ โดยจะมีการลดธงอังกฤษตามสำนักงานทุกแห่งของสหภาพยุโรป เพื่อเป็นสัญลักษณ์การสิ้นสุดการเป็นสมาชิกภาพของสหภาพยุโรปของอังกฤษ