รัฐบาลเยอรมนีตั้งเป้าจะผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานทางเลือก 80 % ภายใน 36 ปี

ขณะนี้ครอบครัวซึ่งมีสมาชิกเฉลี่ยสี่คนในเยอรมนีต้องจ่ายค่าไฟประมาณเดือนละ 3,500 บาทไทยและค่าไฟจะเพิ่มขึ้นเป็นราว 4,200 บาทไทยในปีนี้ ซึ่งนับว่าสูงกว่าค่าไฟในสหรัฐฯ เกือบสามเท่าตัว เหตุผลของเรื่องนี้มาจากการผลักภาระด้านภาษีและเงินอุดหนุนต่างๆ ที่รัฐบาลจ่ายให้กับอุตสาหกรรมผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดไปให้กับประชาชน ผลการศึกษาของรัฐบาลเยอรมนีชี้ว่าขณะนี้ 8 % ของพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในประเทศมาจากฟาร์มกังหันลมทางเหนือของประเทศและในทะเลเหนือ อีกราว 4 % มาจากพลังงานแสงอาทิตย์ทางใต้ของประเทศ และที่เหลือมาจากการใช้แหล่งพลังงานซึ่งหมุนเวียนนำมาใช้ใหม่ได้ เช่นพลังน้ำและเชื้อเพลิงชีวมวล และนาย Paul Hockenos ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานกล่าวว่าสิ่งที่รัฐบาลเยอรมนีทำอยู่นี้ถูกต้องแล้ว เพราะการปฏิวัติด้านพลังงานครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมและผลของเรื่องนี้ได้ช่วยให้เยอรมนีสามารถส่งออกพลังงานได้ในปีที่แล้วด้วย

หลังจากอุบัติเหตุด้านนิวเคลียร์ในญี่ปุ่นเมื่อสามปีที่แล้ว ขณะนี้รัฐบาลเยอรมนีตั้งเป้าจะค่อยๆ ลดเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูลงและผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานทางเลือกให้ได้ 80 % ภายใน 36 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตามกระทรวงสิ่งแวดล้อมของเยอรมนีเปิดเผยว่า นโยบายไฟฟ้าพลังงานสะอาดนี้จะต้องใช้เงินลงทุนรวมถึงหนึ่งล้านล้านกับสามแสนล้านดอลลาร์ด้วยกัน