สหภาพยุโรป (อียู) ประกาศในวันพฤหัสบดีว่า ทางกลุ่มจะดำเนินแผนงานบังคับให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนทั้งหลาย เลือกใช้หัวชาร์จแบบเดียวกัน เพื่อช่วยแก้ปัญหาความสับสนในกลุ่มผู้ใช้งานที่มีอุปกรณ์ต่างแบรนด์อยู่ในมือ ตามรายงานของสำนักข่าว เอพี
รายงานข่าวระบุว่า คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของอียู เสนอร่างกฎหมายที่จะบังคับให้ผู้ผลิตโทรศัพท์สมาร์ทโฟนทั้งหมดหันมาใช้หัวชาร์จแบบ USB-C เพียงแบบเดียว เนื่องจากทุกรายใช้เทคโนโลยีดังกล่าวอยู่แล้ว
หลังมีรายงานเกี่ยวกับร่างกฎหมายดังกล่าวออกมา แอปเปิล (Apple) ออกมาแสดงความกังวลว่า เงื่อนไขใหม่นี้จะกลายมาเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ และเป็นผลเสียต่อผู้บริโภค แม้ว่า โทรศัพท์ไอโฟนรุ่นล่าสุดจะมาพร้อมกับสายชาร์จที่ใช้งานกับหัวชาร์จแบบไลท์นิง (Lightning charging port) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตนเองแต่สามารถเสียบเข้ากับช่อง USB-C ได้แล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม คำประกาศของอียูนั้นได้รับเสียงตอบรับและชื่นชมยินดีจากผู้คนหลายล้าน ที่มีปัญหาต้องคอยหาสายชาร์จที่ถูกต้องสำหรับโทรศัพท์ของตนอยู่เป็นประจำ
นอกจากการอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคแล้ว อียู ยังตั้งใจจะใช้นโยบายนี้เพื่อช่วยลดปริมาณขยะอิเลกทรอนิกส์ในยุโรปที่มีมากถึง 11,000 ตันต่อปีด้วย
อียู รายงานว่า โดยปกติแล้ว ประชาชนในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปนั้นมีสายและหัวชาร์จในมืออยู่อย่างน้อย 3 ชุด และใช้งานจริงๆ เป็นประจำเพียง 2 ชุด ขณะที่มีผู้คนราว 38 เปอร์เซ็นต์ที่บอกว่า ตนประสบปัญหาไม่สามารถชาร์จมือถือได้อย่างน้อย 1 ครั้ง เพราะหาสายและหัวชาร์จที่ใช้กับมือถือของตนไม่เจอ
ทั้งนี้ ในแต่ละปี มีการจำหน่ายมือถือหรืออุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์แบบพกพาในอียูถึงกว่า 420 ล้านเครื่อง
นอกจากเนื้อหาที่จะบังคับให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหันมาใช้หัวชาร์จแบบเดียวกันแล้ว อียู ยังระบุให้มีการจัดทำมาตรฐานเทคโนโลยีการชาร์จแบบรวดเร็วขึ้นมาด้วย และให้ผู้บริโภคมีสิทธิ์ที่จะเลือกว่า จะซื้ออุปกรณ์ชิ้นใหม่พร้อมตัวชาร์จหรือไม่ ซึ่งภายใต้นโยบายทั้งหมดนี้ อียู คาดว่าจะช่วยผู้บริโภคทั้งหมดประหยัดเงินได้ถึงปีละ 293 ล้านดอลลาร์