ปัจจุบัน รถยนต์แบบควบคุมตัวเองอัตโนมัติอาจจะเอาท์ไปแล้ว เมื่อคณะนักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Texas A&M กำลังพัฒนารถยนต์แห่งอนาคตที่สามารถอ่านความรู้สึกของผู้ขับขี่ได้
ที่ห้องทดลองด้านเทคโนโลยีของมหาวิทยาลัย Texas A&M นักวิจัยกำลังพยายามจำแนกอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ออกเป็นหลายแบบ โดยวัดจากลักษณะคลื่นสมองที่เปลี่ยนแปลงไปตามอารมณ์ต่าง ๆ แล้วนำไปเชื่อมโยงกับระบบเทคโนโลยีควบคุมรถยนต์ โดยหวังว่าสักวันจะทำให้รถยนต์รุ่นใหม่สามารถอ่านหรือตอบสนองต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารในขณะนั้นได้
คุณเจมส์ ฮับบาร์ด จูเนียร์ ศาสตราจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย Texas A&M กล่าวว่า รถยนต์แห่งอนาคตจะสามารถอ่านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่สมองส่งออกมา ซึ่งสอดคล้องกับความรู้สึกต่าง ๆ แล้วเแปลงเป็นการตอบสนองในระบบเทคโนโลยีรถยนต์ เช่น เปิดเพลงที่สอดคล้องกับอารมณ์ในขณะนั้น
นักวิจัยใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อกระตุ้นและวัดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในสมอง เช่น การมองเห็นภาพตรงหน้าต่าง ๆ แตกต่างกัน หรือการวัดคลื่นสมองขณะกำลังกรอกตาไปมา เป็นต้น
นักวิจัยเชื่อว่าการทำให้รถยนต์สามารถรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของผู้ขับขี่ได้จะช่วยให้เกิดประโยชน์มากมาย เช่น การตรวจจับว่าผู้ขับขี่กำลังง่วงซึมอยู่หรือไม่ หรือมีความเครียดจากสภาพการจราจรตรงหน้ามากแค่ไหน
ศาสตราจารย์ เจมส์ ฮับบาร์ด จูเนียร์ กล่าวว่า เมื่อรถยนต์ตรวจจับว่าคุณกำลังเครียดหรือหัวร้อน ก็อาจเล่นเพลงที่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้ทันที
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความกังวลถึงการลอบแฮคข้อมูล โดยเฉพาะการที่ผู้แฮคสามารถเข้าถึงข้อมูลด้านอารมณ์ของจ้าของรถยนต์นั้น ก็อาจเป็นอันตรายได้เช่นกัน
แต่อาจารย์เจมส์ ฮับบาร์ด บอกว่า เทคโนโลยีและเครื่องมือทุกอย่างล้วนเป็นดาบสองคม ขึ้นอยู่กับผู้ใช้เทคโนโลยีนั้น
นักวิจัยผู้นี้ยกตัวอย่างไขควง ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากมาย แต่ก็อาจถูกนำไปใช้เป็นอาวุธได้เช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้จะไม่เป็นอุปสรรคที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ยุติการคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ อย่างแน่นอน
สำหรับเทคโนโลยีอ่านความรู้สึกนี้ แม้อีกนานหลายปีกว่าที่จะสามารถนำออกมาใช้ได้จริง แต่นักวิจัยก็เชื่อว่าในที่สุดแล้วเทคโนโลยีนี้จะสามารถเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน และช่วยให้ผู้ขับขี่อารมณ์ดีผ่อนคลายขึ้นได้บ้างไม่มากก็น้อย