ลิขสิทธิ์เอลวิส อาจทำลายธุรกิจงานแต่งที่เวกัส

นครลาสเวกัส รัฐเนวาดา หนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับคู่รักที่มาลั่นระฆังวิวาห์ในอเมริกา และหลายบริษัทที่ให้บริการด้านงานแต่งในเมืองนี้ มักที่จะมีการนำเสนอพิธีแต่งงานในธีมที่เกี่ยวข้องกับเอลวิสเป็นจุดขาย

แต่ล่าสุดบริษัทที่ถือลิขสิทธิ์ของ เอลวิส เพรสลีย์ ออกโรงเตือนบริษัทที่ทำธุรกิจจัดพิธีวิวาห์ในนครลาสเวกัส ห้ามนำสัญลักษณ์ของนักร้องคนดังเข้าไปร่วมในงานแต่ง

สื่อท้องถิ่นอย่าง Las Vegas Review-Journal รายงานว่า บริษัท Authentic Brands Group ที่ดูแลลิขสิทธิ์ของเอลวิส เพรสลีย์ โดยส่งจดหมายเตือนไปยังสถานที่จัดพิธีแต่งงาน เพื่อแสดงคำสั่งบังคับจากศาล ให้บุคคลหรือองค์กรต่าง ๆ ระงับการกระทำที่อาจจะเข้าข่ายผิดกฏหมาย

เนื้อหาในเอกสารดังกล่าวระบุว่า ทางบริษัทไม่อนุญาตให้นำชื่อ การแต่งกายที่คล้าย ลักษณะการใช้เสียง รวมไปถึงรายละเอียดอื่น ๆ ที่อาจจะเชื่อมโยงไปยังนักร้องคนดัง เนื้อหาบางส่วนของจดหมายยังกล่าวว่า คำต่าง ๆ อย่างเช่น “Elvis” “Elvis Presley” และ “The King of Rock and Rolll” ล้วนแต่เป็นคำที่ได้รับการคุ้มครองทางกฏหมาย

หลังคำสั่งดังกล่าวมีออกมา หลายบริษัทแสดงความกังวลว่า การถอดองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับเอลวิสจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจของพวกเขา

เคย์ลา คอลลินส์ ที่ดำเนินธุรกิจงานแต่งธีมเอลวิส ผ่านเว็บไซต์ LasVegasElvisWeddingChapel.com และยังมีธุรกิจสถานประกอบพิธีแต่งงานที่ชื่อ Little Chapel of Hearts ร่วมกับสามีของเธอ คอลลินส์ เปิดเผยกับสำนักข่าวเอพีว่า “นี่คือแหล่งรายได้หลักของเรา ทั้งที่เพิ่งเจอผลกระทบของโควิด-19 ไป แต่แล้วสิ่งนี้ก็มาเกิดขึ้นอีก”

อุตสาหกรรมธุรกิจงานแต่งที่ลาสเวกัส สร้างรายได้ราว 2,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี ลินน์ โกยา เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่พยายามผลักดันให้ลาสเวกัส เป็นศูนย์กลางของการจัดงานแต่ง เธอกล่าวว่า คำสั่งระงับองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับเอลวิสเกิดขึ้นในจังหวะที่เลวร้าย ลาสเวกัสต้องเผชิญกับความยากลำบาก หลังจากที่นักท่องเที่ยวหายไปในช่วงที่เกิดการระบาดใหญ่

โกยา กล่าวเสริมว่า พิธีแต่งงานจำนวนไม่น้อยถูกนำเสนอในธีมของเอลวิส เธอคาดว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าว อาจจะทำลายบางส่วนของอุตสาหกรรมงานแต่งในเมืองนี้ และผู้คนจำนวนมากอาจจะต้องสูญเสียการทำอาชีพตรงนี้ไป

ในแถลงการณ์ล่าสุดของ บริษัท Authentic Brands Group กล่าวว่า บริษัทนั้นมีความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มศิลปินที่แสดงเป็นเอลวิส และผู้ที่ชื่นชอบในตัวศิลปิน อีกทั้งยังระบุว่า บริษัทไม่มีความต้องการที่จะให้สถานประกอบงานแต่ง ในเมืองลาสเวกัส ที่นำเสนอธีมเอลวิสต้องปิดตัวลง

บริษัท Authentic Brands Group มีการให้รายละเอียดไว้ว่า “ทางบริษัทต้องการที่จะทำงานร่วมกับธุรกิจขนาดเล็กทั้งหลาย เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้องค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับเอลวิส ทั้งชื่อ รูปภาพ การแต่งกายที่คล้าย ได้รับลิขสิทธิ์ และการอนุญาตใช้งานอย่างถูกต้อง” บริษัทดังกล่าวยังดูแลลิขสิทธิ์ของคนดังอื่น ๆ ซึ่งรวมถึง ดาราภาพยนตร์ชื่อดัง มาริลิน มอนโร และนักมวย มูฮัมหมัด อาลี

ความสัมพันธ์ของเพรสลีย์ และลาสเวกัสมีมาอย่างยาวนาน ในปี 1964 ภาพยนตร์ของเอลวิส เพรสลีย์ที่ชื่อ Viva Las Vegas มีเพลงประกอบอันโด่งดังในชื่อเดียวกัน ความสำเร็จดังกล่าวกลายมาเป็นธีมของนครลาสเวกัส อย่างไม่เป็นทางการ

ปี 1967 เพรสลีย์แต่งงานกับ พริสซิลลา ภรรยาของเขาที่ลาสเวกัส

ส่วนในเดือนกรกฏาคม ปี 1969 เพรสลีย์สร้างนิยามใหม่ของการเข้าพักที่ลาสเวกัสและทำการแสดงสด จากเดิมที่วางแผนไว้จะมาพักและทำการแสดงเพียง 4 สัปดาห์ที่ โรงแรม Las Vegas International Hotel แต่แล้วการแสดงดังกล่าวกลับดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงเดือนธันวาคม ปี 1976 รวมแล้วมีการแสดงมากกว่า 600 ครั้ง

ทางด้าน เคนท์ ริปลี เจ้าของธุรกิจงานแต่งที่ชื่อ Elvis Weddings เปรยเอาไว้ว่า ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา เขาสวมบทบาทเป็นเอลวิส และไม่เคยต้องมาเจอกับประเด็นเช่นนี้ ริปลีตั้งคำถาม ทิ้งท้ายเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ โดยกล่าวว่า “พวกเขาต้องการปกป้องสัญลักษณ์ของเอลวิส แต่การทำให้คนทั่วไปเข้าถึงเอลวิสไม่ได้ นี่หรือคือวิธีการป้องกัน”

• ที่มา: เอพี