เมื่อ 2-3 ปีก่อน เลส แอนสลีย์ เริ่มการทดลองพัฒนา ‘จิน’ (Gin) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีการผสมผสานรสชาติของผลไม้และเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ เข้าไว้ด้วยการ โดยการเลือกใช้ส่วนผสมที่ผ่านกระบวนการย่อยมาแล้วโดยช้าง ซึ่งก็คือ มูลช้าง นั่นเอง
แอนสลีย์ เกิดความคิดที่จะผลิตเหล้าจินจากมูลช้าง หลังมีโอกาสไปท่องป่าแอฟริกาใต้ และไปพบมูลของช้าง จึงลองดมดู และเก็บใส่ถุงกลับมาบ้านเพื่อลองผลิตเครื่องดื่มสุดหรูดู
เขากล่าวว่า ขั้นตอนที่หนักที่สุดนั้นเป็นหน้าที่ของช้างทั้งหมด โดยระบบย่อยอาหารของช้างจะทำการสกัดเอารสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของสมุนไพรและผลไม้ต่างๆ ออกมาใช้งานได้เป็นอย่างดี
ความสำเร็จของ แอนสลีย์ ในครั้งนั้นนำมาซึ่งผลิตภัณฑ์เหล้าจินภายใต้แบรนด์ Indlovu ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของแอฟริกาใต้ที่แปลว่า “ช้าง” โดยเขาสามารถนำเสนอนวัตกรรมใหม่นี้ไปยังตลาดทั่วโลกทันที ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐฯ แคนาดา เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น หรือไต้หวัน
รายงานข่าวระบุว่า ในแต่ละเดือน แอนสลีย์และภรรยาของเขา ส่งออกเหล้าจินมูลช้างได้ถึง 1,500 ขวดเลยทีเดียว และนับตั้งแต่ต้นปีมา บริษัทผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดของแอฟริกา 2 ราย อันได้แก่ Woolworths และ Pick‘n’Pay ได้เข้ามาร่วมธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์นี้แล้วด้วย
แอนสลีย์ อธิบายว่า การสกัดเหล้าจากมูลช้างนั้นมีข้อดีที่ว่า ระบบย่อยอาหารของช้างนั้นไม่ได้ทำการย่อยอาหารหนักหน่วง ซึ่งหมายความว่า อาหารที่เข้าปากไปนั้นจะเดินทางผ่านลำไส้ออกมาอีกทางได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังมีแบคทีเรียในลำไส้ในระดับที่ต่ำ และระบบภายในของช้างก็ไม่ได้ดูดซับอะไรมากมายด้วยเลย
นอกจากนั้น เขาบอกว่า ช้างยังเป็นสัตว์ที่สามารถเลือกกินใบไม้ ผลไม้ ดอกไม้และต้นไม้ที่มีสภาพดีที่สุดให้กับตัวเองได้อีกด้วย
สำหรับผลิตภัณฑ์ Indlovu นี้ นอกจากจะมีส่วนประกอบปกติเช่น ผลจูนิเปอร์และผลไม้ตระกูลส้ม-มะนาวแล้ว สิ่งที่ช้างเลือกทานในแต่ละฤดูก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำให้เหล้าจินในแต่ละล็อตนั้นออกมามีรสชาติที่แตกต่างกันไป โดยผู้กลั่นจะระบุวันและสถานที่ที่เก็บมูลช้างมาผลิตไว้ที่ฉลากข้างขวดเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการจำหน่ายและการบริโภคด้วย
ทั้งนี้ แอนสลีย์และภรรยา ยังได้บริจาค 15% ของกำไรที่ได้จากธุรกิจนี้ให้กับศูนย์ดูแลลูกช้างกำพร้าด้วย โดยประเด็นนี้น่าจะเป็นเหตุผลว่า ทำไมลูกค้าที่สนใจในผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แหวกแนวนี้มากพอควร