ชาวเน็ตจีนพากันชื่นชมความสำเร็จของ ไอลีน กู่ นักสกีชาวอเมริกันเชื้อสายจีน ที่เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปีนี้ในนามประเทศจีนและสามารถคว้าเหรียญทองมาครอบครองได้สำเร็จ ขณะที่หลายคนพากันไปแสดงความเห็นต่อว่าและไล่ เบเวอร์ลี่ จู นักสเก็ตน้ำแข็งชาวอเมริกันเชื้อสายจีนที่ทำผลงานได้ไม่ดีให้กลับสหรัฐฯไป ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี
ไอลีน กู่ นักสกีแบบฟรีสไตล์กลายมาเป็นขวัญใจชาวจีนทันทีที่เธอทำคะแนนสูงสุดในการแข่งขันประเภท Big Air เมื่อวันอังคารตามเวลาในจีน จนสามารถคว้าเหรียญทองมาได้ จนมีผู้ออกมาแสดงความชื่นชมเธอผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ อย่างล้นหลาม จนแม้แต่แอป เว่ยโป๋ (Sino Weibo) ซึ่งเป็นเหมือนทวิตเตอร์ของจีนต้องประสบปัญหาเซิร์ฟเวอร์หยุดทำงานไปชั่วคราว ขณะที่ 5 ใน10 หัวข้อสนทนาติดเทรนด์ของแพลตฟอร์มนี้เป็นเรื่องของสาวน้อยเจ้าของเหรียญทองวัย 18 ปีนี้ด้วย
ขณะเดียวกัน จู อี้ หรือ เบเวอร์ลี่ จู ซึ่งเป็นนักกีฬาชาวอเมริกันที่ลงแข่งกีฬาสเก็ตลีลา (figure skate) ในนามจีน กลับถูกชาวเน็ตจีนรุมถล่มกันอย่างมากมายหลังเธอไถลไปชนกำแพงลานระหว่างการแข่งขันแบบทีมเมื่อ 2-3 วันก่อน และตัวเธอทำคะแนนได้ต่ำที่สุดในรายการแข่งขันแบบสั้น (short program) ขณะที่ คะแนนรวมทีมจีนนั้นอยู่ที่อันดับที่ 5 พลาดเหรียญไปให้กับ ทีมรัสเซีย สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ในปีนี้
กระแสชัง เบเวอร์ลี่ จู ในโลกสื่อสังคมออนไลน์จีนรุนแรงจน เว่ยโป๋ ต้องสั่งระงับบัญชีผู้ใช้งานไป 93 บัญชีและลบโพสต์ที่มีข้อความก่นด่ารุนแรงนักสเก็ตรายนี้ไปถึง 300 โพสต์ โดยรายงานข่าวระบุว่า บางข้อความเยาะเย้ยเธอตอนที่ล้มขณะแข่ง ขณะที่บางรายวิจารณ์ที่เธอพูดภาษาจีนกลางไม่คล่องแคล่ว
ตัวอย่างข้อความโจมตีที่ได้รับความนิยมจนมีคนมากดไลค์ถึงกว่า 45,000 ครั้งคือ ข้อความที่ระบุว่า “หน้าไม่อาย” ซึ่งเป็นความเห็นใต้คลิปวิดีโอขณะที่ เบเวอร์ลี่ กำลังร้องไห้หลังจบการแข่งขัน ขณะที่มีผู้มีโพสต์ข้อความอย่างเช่น “ไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว” และ “กลับอเมริกาไปเลย” ด้วย
เอพี รายงานว่า กระแสต่อต้าน เบเวอร์ลี่ ในโลกออนไลน์นั้นเริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อเธอสามารถทำคะแนนจนได้เป็นนักสเก็ตคนสุดท้ายที่ได้คัดเลือกมาร่วมทีมจีน ขณะที่แฟนๆ มองว่า ผู้ที่ควรได้เข้าร่วมนั้นคือ เจิน หงอี้ นักสเก็ตสาวน้อยที่มีประสบการณ์การแข่งขันมากกว่า
ทั้งนี้ ไอลีน กู่ ได้ออกมาปกป้อง เบเวอร์ลี่ ทันที ด้วยการกล่าวระหว่างการแถลงข่าวหลังขึ้นรับเหรียญทองว่า “การทำผิดพลาดและแรงกดดันนั้น คือส่วนหนึ่งของกีฬา”
- ที่มา: เอพี
