นาย Mohammad คนขับแท็กซี่ชาวอียิปต์วัย 40 ปี ได้ใช้เวลาในชีวิตส่วนใหญ่เพื่อพยายามแปลงเพศเป็นผู้ชาย เขากล่าวว่า ถ้าไม่มีการผ่าตัดครั้งสุดท้ายที่จะทำให้เขาได้แปลงเพศจากหญิงสู่ชายอย่างเต็มตัว เขาคาดว่าคู่หมั่นคงจะทิ้งเขาภายในหนึ่งปี
หากดูภายนอก Mohammad รูปร่างเหมือนผู้ชายเต็มตัว เขาบอกว่า การต้องใช้ชีวิตเป็นหญิงก็เหมือนกับการไม่ได้ใช้ชีวิตเลย และยังกล่าวต่ออีกว่า วันที่เขาได้เข้าผ่าตัดครั้งแรก ครอบครัวเขาอยู่เคียงข้าง และ Mohammad ได้บอกกับครอบครัวว่าการผ่าตัดครั้งนี้จะทำให้เขาได้ใช้ชีวิตตามที่ต้องการ
ในฐานะที่เป็นคนข้ามเพศชาวอียิปต์ Mohammad ถือว่าโชคดีพอสมควรที่ได้อยู่ในประเทศอาหรับแห่งเดียวที่มีการผ่าตัดแปลงเพศฟรี สำหรับคนที่ชาวอียิปต์เรียกว่าเป็นโรค Gender Identity Disorder หรือภาวะความไม่พอใจในเพศตัวเอง
แต่ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลอียิปต์หยุดออกใบอนุญาตสำหรับการผ่าตัดเหล่านี้
ใน 15 ปีที่ผ่านมา Mohammad ได้เข้ารับการบำบัดทางจิต รับฮอร์โมน และการผ่าตัดที่จำเป็น แต่ตอนนี้เขาเจอปัญหาทั้งๆ ที่เขาเกือบจะได้เป็นผู้ชายเต็มตัวแล้ว ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการที่ตัดสินว่าใครจะได้เข้ารับผ่าตัด กำลังมีการถกเถียงถึงหลักศีลธรรมของการผ่าตัดเหล่านี้
นาย Mohammad กล่าวว่า การยืดเยื้อการออกใบอนุญาต ทำให้เขารู้สึกสิ้นหวัง เขาไปโรงพยาบาลหลายแห่ง และขอร้องให้แพทย์ผ่าตัดเขา จนเขาไปเจอแพทย์คนหนึ่ง ที่สัญญาว่าจะทำการผ่าตัดครั้งที่สามที่ Mohammad ต้องการ แต่ท้ายที่สุด คุณหมอก็บอกกับเขาว่า ไม่สามารถทำการผ่าตัดให้ได้
สำหรับประชากรชาวอียิปต์นั้น ความคิดอคติเรื่องการผ่าตัดแปลงเพศตั้งอยู่บนพื้นฐานความคิดที่ฝังรากลึก โดยชาวอียิปต์หลายคนบอกว่า การผ่าตัดแปลงเพศเป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรม
นาย Said Mohamed Mazen คนขับรถอายุ 52 ปี กล่าวว่า “พระเจ้าสร้างเราขึ้นมา ผู้ชายคือผู้ชาย ผู้หญิงคือผู้หญิง การผ่าตัดเช่นนี้ ไม่เหมาะกับชุมชนพวกเรา”
เมื่อพูดถึงเรื่องการผ่าตัดเช่นนี้ว่าเป็นเรื่องการแพทย์ นาย Mazen ยอมอ่อนข้อลงบ้าง โดยกล่าวว่า แพทย์อาจจะรู้ว่าอะไรดีที่สุด
นักเคลื่อนไหวทางสังคมชาวตะวันตกบางท่านแย้งว่า การตีตราว่าคนที่แปลงเพศเป็นคนที่มีปัญหาทางจิตวิทยา เป็นการดูหมิ่นพวกเขา แต่แพทย์อียิปต์ เชื่อว่านี่เป็นปัญหาทางการแพทย์ ที่ต้องแก้โดยแพทย์
และนายแพทย์ Mohammed Abdou Abdel-Rassoul ศัลยแพทย์ที่ทำการผ่าตัดแปลงเพศ อธิบายว่า ด้วยเหตุผลนี้เอง ที่ทำให้รัฐสนับสนุนการผ่าตัดแปลงเพศ
เขาอธิบายต่ออีกว่า ผู้นำศาสนาอิสลามและคริสต์ในอียิปต์ ต่างก็มองกว่าการผ่าตัดเช่นนี้เป็นสิ่งจำเป็นทางการแพทย์ แต่หลายคนยังมองว่าเป็นทำผิดทางศาสนาที่ร้ายแรง Dr. Osama Abdelhay ประธานคณะกรรมการออกใบอนุญาต เล่าว่า คำถามว่าด้วยศีลธรรมของการผ่าตัดแปลงเพศ ถูกนำเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเพราะประเด็นนี้ มีการถกเถียงในสังคมอย่างมาก และผู้นำศาสนาเริ่มลังเลที่จะออกใบอนุญาต
คณะกรรมการนี้ประกอบด้วยแพทย์และตัวแทนจาก Al-Azhar องค์กรศาสนาอิสลามที่มีเกียรติมากที่สุดในประเทศ และการได้รับการยอมรับจากองค์กรศาสนาแห่งนี้ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการแปลงเพศ เพราะจะสามารถทำให้สังคมยอมรับพวกเขา
ในอียิปต์ ผู้ที่แปลงเพศส่วนใหญ่ไม่สามารถเปลี่ยนชื่อและเพศให้ถูกกฏหมาย และเมื่อไม่มีบัตรประจำตัวที่แสดงเพศใหม่ คนพวกนี้ก็ต้องอยู่บ้านหรือแต่งตัวให้เป็นไปตามเพศโดยกำเนิด
นอกจากนี้ Mohammad บอกว่า ตนไม่ถูกคุกคามเหมือนผู้ที่แปลงเพศคนอื่นๆเพราะตนมีรูปร่างเหมือนผู้ชาย เขายังเล่าต่ออีกว่า การถูกล้อและข่มเหงเป็นสิ่งที่ผู้แปลงเพศเป็นหญิงหลายคนต้องเจอ
ถึงแม้ว่าในอเมริกา ตอนนี้กำลังมีการถกเถียงเรื่องการใช้ห้องน้ำของผู้ที่แปลงเพศ แต่ในอียิปต์ เรื่องนี้แทบจะไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะพวกเขาจะพยายามทำตัวให้กลมกลืนมากที่สุดเพื่อความปลอดภัย และถึงแม้ผู้ที่แปลงเพศในอียิปต์ยังไม่ต่อสู้เพื่อสิทธิอย่างเปิดเผย
แต่การถกเถียงในอเมริกาอาจจะทำให้เกิดทางออกสำหรับประเทศอื่นๆ ที่เจอข้อขัดแย้งระหว่างความคิดด้านสิทธิมนุษยชนกับสิ่งที่ชุมชนต้องการ