เศรษฐกิจเอเชีย ซึ่งอาศัยการส่งออกเป็นกำลังสำคัญ แต่ต้องพึ่งพาอาศัยน้ำมันที่นำเข้า กำลังเตรียมตัวเผชิญหน้ากับอัตราเงินเฟ้อที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น เพราะราคาน้ำมันโลกเวลานี้สูงกว่าหนึ่งร้อยดอลล่าร์ต่อบาเรลแล้ว
นาย Aynul Hasan นักเศรษฐศาสตร์อ่าวุโสของ ESCAP หรือ คณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมของสหประชาชาติในภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิค กล่าวว่า ราคาน้ำมันขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ทางการเมืองในตะวันออกกลาง
นักเศรษฐศาสตร์ของ ESCAP ผู้นี้ กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอยู่กับว่าเรื่องราวจะลงเอยกันอย่างไร ในขณะที่ยังไม่แน่นอนอย่างนี้ ก็จะมีปัญหาแน่ๆ หลายประเทศมีน้ำมันสำรองอยู่ได้เพียงสองสามสัปดาห์ แต่ถ้าปัญหายืดเยื้อยาวนานออกไป ก็จะมีผลกระทบอย่างแน่นอน ก็ได้แต่หวังกันว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น
ธนาคารโลกได้กล่าวเตือนไว้ว่า ราคาอาหารเพิ่มสูงอย่างน่าเป็นห่วง และเชื่อว่ายังจะเพิ่มขึ้นต่อไปอีก ซึ่งจะทำให้ผู้คนอีกเป็นจำนวนมากจะตกอยู่ในสภาวะความยากจนในช่วงปีหน้า
นายศุภวุฒิ สายเชื้อ นักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทภัทรหลักทรัพย์ในกรุงเทพฯ ให้ความเห็นว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชีย ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการส่งออก ซึ่งจะมีปัญหาถ้าราคาน้ำมันสูงขึ้นมาก นักเศรษฐศาสตร์ผู้นี้กล่าวว่า ถ้าเศรษฐกิจโลกชลอตัวลง และราคาน้ำมันสูง จะกระทบกระเทือนประเทศไทยและประเทศอื่นๆในภูมิภาคมากทีเดียว
แทบทุกประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ เป็นผู้นำเข้าน้ำมันทั้งนั้น
เมื่อปี ค.ศ. 2007 อุตสาหกรรมการบินมีปัญหาอย่างมากเมื่อราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นไปกว่า 147 ดอลล่าร์ต่อบาเรล และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในปีต่อมา ทำให้มีผู้โดยสารเครื่องบินลดน้อยลงมาก เมื่อสองสามวันมานี้ ราคาหุ้นสายการบินเริ่มลดลงอีกเพราะนักลงทุนเริ่มวิตกว่า กำไรของอุตสาหกรรมการบินจะลดลงอีกครั้งหนึ่ง
นายศุภวุฒิ สายเชื้อ นักเศรษฐศาสตร์ไทยกล่าวว่า เป็นที่คาดหมายกันในตลาดโภคภัณฑ์ล่วงหน้าว่า จะยังมีความไม่แน่นอนต่อไปอีกอย่างน้อยหกเดือน ก่อนที่จะกลับคืนสู่สภาพปกติ
อุปสงค์โลกสำหรับน้ำมันตกราวๆวันละ 90 ล้านบาเรลต่อวัน ลิเบียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันประมาณ 1 ล้านบาเรล
ขณะเดียวกัน รัฐบาลในเอเชียตะวันออกกำลังจับตาดูอัตราเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด และบางรายดำเนินมาตรการสะกัดกั้นปัญหา เช่นเพิ่มอัตราดอกเบี้ยและจำกัดกระแสเม็ดเงินเพื่อผ่อนคลายความกดดัน