หุ่นยนต์กำลังถูกนำมาใช้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใหม่ของดูไบ ใบหน้าของหุ่นยนต์มีตาสองข้าง แต่ไม่มีจมูกกับปาก สูง 165 เซ็นติเมตรและหนัก 100 กิโลกรัม
หุ่นยนต์ตำรวจมีหน้าจอเเบบสัมผัสแทนการพกพาอาวุธ และส่วนมากประจำการอยู่ตามห้างสรรพสินค้า เเละสถานที่ยอดนิยมอื่นๆ ของนักท่องเที่ยว
หุ่นยนต์ตำรวจของดูไบนี้ถูกนำออกมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในงานเอ็กซ์โปด้านข้อมูลและความมั่นคงที่ดูไบเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
หากหุ่นยนต์ตำรวจทำงานได้ผลดี ดูไบวางแผนที่จะใช้หุ่นยนต์ตำรวจ ทดแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอย่างน้อย 25 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด ภายในปี ค.ศ. 2030 หรือในอีกราว 13 ปีข้างหน้า
ดูไบหวังว่าหุ่นยนต์ตำรวจจะช่วยให้ชีวิตของประชาชนดีขึ้น คาลิด อัล ราซูคิ ผู้อำนวยการฝ่ายสมาร์ทเซอร์วิสแห่งตำรวจดูไบ กล่าวว่า หุ่นยนต์จะบริการประชาชนได้ทุกเวลา ทุกวัน และไม่ต้องลาป่วย
หุ่นยนต์ตำรวจนี้ไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ เเต่สามารถจดจำใบหน้าของผู้คน เเละนำไปเปรียบเทียบกับภาพถ่ายในฐานข้อมูลอาชญากรและยังสามารถตรวจจับความรู้สึกของคนได้ด้วย
ประชาชนสามารถใช้หน้าจอแบบสัมผัสหรือทัชสกรีนของหุ่นยนต์ตำรวจได้ เพื่อรายงานเหตุการณ์ร้ายหรืออาชญากรรม จ่ายค่าปรับ เเจ้งของหายหรือแจ้งพบของที่สูญหาย นอกจากนี้ยังใช้เพื่อสอบถามทางได้ด้วย
หุ่นยนต์ตำรวจสามารถทักทายหรือจับมือกับคนทั่วไปได้ด้วย และตอนนี้ หุ่นยนต์พูดภาษาอาราบิกและภาษาอังกฤษได้ และอีกไม่นานจะพัฒนาให้พูดภาษาอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ ภาษารัสเซีย ภาษาจีน ภาษาฝรั่งเศส และภาษาสเปน
นอกเหนือจากหน้าจอเเบบสัมผัสเเล้ว หุ่นยนต์ยังมีกล้องถ่ายภาพหนึ่งตัวที่สามารถถ่ายทอดสดภาพวิดีโอไปยังศูนย์บังคับการตำรวจ นอกจากนี้ ดูไบยังวางแผนที่จะเพิ่มหุ่นยนต์ตำรวจอีกประเภทหนึ่งเข้าไปประจำการด้วย
โดยภายในอีกสองปี ดูไบจะนำหุ่นยนต์ตำรวจที่สูง 3 เมตร และวิ่งได้เร็วถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ออกมาประจำการ
ทางการของดูไบเปิดเผยว่า หุ่นยนต์ตัวนี้จะกลายเป็นหุ่นยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมนุษย์หนึ่งคนจะสามารถเข้าไปนั่งภายในตัวหุ่นยนต์นี้ได้และเป็นผู้ควบคุมการทำงาน นอกจากนี้ หุ่นยนต์ตัวนี้จะสามารถยกหรือเคลื่อนย้ายวัสดุที่มีน้ำหนักมากได้ด้วย
นอกจากนี้ ทางการดูไบยังวางเเผนที่จะใช้หุ่นยนต์เพื่อตรวจตราจุดจอดรถและคนที่ละเมิดกฏจราจรด้วย
(รายงานโดย Carolyn Mohr / เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว)