ดัชนีหุ้นในสหรัฐฯ ดีดตัวสูงขึ้นในการซื้อขายวันพุธ โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้นกว่า 1,000 จุด ถือว่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ชดเชยส่วนที่ร่วงลงไปตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา
หุ้นของบริษัทเทคโนโลยี อิเทอร์เน็ต ร้านค้าปลีก และบริษัทด้านสุขภาพ พุ่งสูงขึ้นในวันพุธ เช่นเดียวกับหุ้นของบริษัทด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นในระดับที่เป็นสถิติใหม่ในรอบสองปีของการเพิ่มขึ้นภายในหนึ่งวััน
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า การที่ดัชนีต่างๆ ดีดตัวสูงขึ้นมากในวันนี้ คือปฏิกิริยาตอบสนองต่อแรงเทขายในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งคำถามสำคัญคือตลาดหุ้นจะสามารถรักษาโมเมนตัมนี้ต่อไปได้จนถึงสิ้นปีหรือไม่
โดยวันนี้ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 5% หรือ 1,086 จุด ปิดที่ 22,878 จุด, ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 5% ปิดที่ 2,467จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 5.8% หรือr 361 จุด ปิดที่ 6,554 จุด
ดัชนีหุ้นในสหรัฐฯ ร่วงดิ่งลงตั้งแต่วันจันทร์ หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ ออกมาตำหนิการทำงานของนายเจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ประธานคณะผู้ว่าการระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed
อย่างไรก็ตาม บรรดาเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวต่างออกมารับรองว่า ตำแหน่งของนายพาวเวลล์ ยังคงปลอดภัย ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์เองได้เปลี่ยนท่าทีเมื่อวานนี้ โดยบอกว่ามาตรการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed นั้น มีขึ้นเพื่อความปลอดภัยของตลาด
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์เชื่อว่า การปิดการทำงานของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ บางสว่น ที่ดำเนินมาถึงวันที่ 5 แล้วนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากนัก