ลิ้งค์เชื่อมต่อ

สมาคมเทนนิสสหรัฐฯ งัดเกมใหม่สู้! 'พิกเคิลบอล' กลืนสนาม 'เทนนิส'


ภาพผู้คนเล่น 'พิกเคิลบอล' ที่เซ็นทรัลพาร์ค นครนิวยอร์ก เมื่อ 24 ส.ค. 2567
ภาพผู้คนเล่น 'พิกเคิลบอล' ที่เซ็นทรัลพาร์ค นครนิวยอร์ก เมื่อ 24 ส.ค. 2567

กีฬาที่กำลังได้รับความนิยม และมีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในสหรัฐฯ คือ “พิกเคิลบอล” (Pickleball) ในช่วงสามปีที่ผ่านมา มีผู้เล่นกีฬาชนิดนี้เพิ่มขึ้นถึง 223% แซงหน้ากีฬาทุกประเภท

กระแสความนิยมที่พุ่งทะยาน ได้สร้างความกังวลให้กับกลุ่มผู้ที่รักเทนนิส เพราะเกรงว่าพิกเคิลบอลจะมาคุกคามกีฬาหวดลูกสักหลาด

พิกเคิลบอล เป็นเกมที่เล่นง่าย ผสมกันระหว่างเทนนิสและปิงปอง ผู้เล่นจะใช้ไม้ตีลูกวิฟเฟิลบอล (Wiffleball) หรือลูกพลาสติคที่มีน้ำหนักเบา โดยเริ่มมาจากกลุ่มคนวัยเกษียณอายุ หาวิธีออกกำลังกายในช่วงการระบาดของโควิด-19 ก่อนที่คนหนุ่มสาวจะหันมาเล่นเพิ่มมากขึ้น

เพียงไม่กี่ปี จากกีฬาที่ไม่มีใครรู้จัก ปัจจุบันนี้คาดว่ามีผู้เล่นในสหรัฐฯ จำนวนราว 13.6 ล้านคน ขณะที่จำนวนของผู้เล่นกีฬาเทนนิสอยู่ที่ประมาณ 23.8 ล้านคน อันนำไปสู่ความวิตกที่ว่า ในอนาคตสนามเทนนิสหลายพันแห่ง อาจถูกแทนที่ด้วยสนามพิกเคิลบอล

ภาพนักเล่นพิกเคิลบอลมืออาชีพที่ร่วมการแข่งขันรายการ National Mall of Pickleball ในกรุงวอชิงตันเมื่อ 29 ก.ย. 2567
ภาพนักเล่นพิกเคิลบอลมืออาชีพที่ร่วมการแข่งขันรายการ National Mall of Pickleball ในกรุงวอชิงตันเมื่อ 29 ก.ย. 2567

ดร. ไบรอัน ไฮน์ไลน์ ประธานสมาคมเทนนิสแห่งสหรัฐฯ (U.S. Tennis Association - USTA) กล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า ความนิยมอย่างล้นหลามของพิกเคิลบอล สร้างความกังวลว่าอาจมีแนวโน้มมาแทนที่กีฬาเทนนิส หนึ่งในสัญญาณคือผู้เล่นจำนวนมาก ต่างร้องขอที่จะใช้สนามเทนนิสเพื่อเล่นพิกเคิลบอล เขาบอกว่า “มันเป็นการรณรงค์ที่ไม่มีอะไรแอบแฝง แต่ก็เหมือนเป็นการต่อต้านกีฬาเทนนิสเล็กน้อย”

ในขณะที่ หน่วยงานกำกับดูแลเทนนิสประเทศอื่น ๆ ให้การยอมรับพิกเคิลบอล เพื่อใช้เป็นเกมทางเลือก โดยเชื่อว่าท้ายที่สุดเหล่าผู้เล่นจะพัฒนาไปสู่กีฬาเทนนิส ตัวอย่างเช่น ในการแข่งขันเฟรนช์โอเพ่น (French Open) ปีนี้ สหพันธ์เทนนิสของฝรั่งเศสได้จัดให้มีสนามพิกเคิลบอล เพื่อเปิดโอกาสให้บรรดานักกีฬาชั้นนำและแฟนๆ ได้ทดลองเล่น

แต่ทางด้าน USTA กลับใช้แนวทางที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ในการแข่งขันยูเอส โอเพ่น ไม่มีสนามสาธิตการเล่นพิกเคิลบอล ไม่มีการกล่าวถึง และไม่มีสัญญาณที่กีฬาพิกเคิลบอลและเทนนิส จะมาประสานความร่วมมือกันในอนาคต

กลยุทธ์ที่ USTA นำมาใช้รับมือกระแสความนิยมของพิกเคิลบอล คือส่งเสริมเกมเทนนิสที่เล่นง่ายขึ้นและเหมาะสำหรับคนทุกวัย ใช้ชื่อว่า “เรดบอล เทนนิส” (Red Ball Tennis) โดยจะใช้ลูกบอลที่มีแรงบีบอัดต่ำและเล่นในสนามที่มีขนาดเล็ก ลูกบอลสีแดงเคยถูกใช้สำหรับเด็กเพื่อฝึกหัดเล่นเทนนิส แต่ตอนนี้ถูกนำมาใช้ในกลุ่มผู้ใหญ่ ที่คาดว่าเป็นกลุ่มเดียวกับที่ชื่นชอบกีฬาพิกเคิลบอล

Red Ball Tennis ถูกแนะนำผ่านโครงการนำร่องจำนวน 400 โครงการทั่วสหรัฐฯ โดยผู้เกี่ยวข้องชี้ว่า คอร์ตขนาดเล็กที่เหมาะกับการเริ่มเล่นเกมนี้มากที่สุด คือสนามพิกเคิลบอล

ไฮน์ไลน์ ประธาน USTA บอกว่า ผู้เล่นสามารถเลือกที่จะหวดลูกสีแดง หรือเมื่อเล่นจนชำนาญแล้ว อาจปรับไปใช้ลูกเทนนิสทั่วไป และขยับไปเล่นในคอร์ตขนาดมาตรฐาน เขายังเสริมว่าเสียงตีลูกเทนนิส มีเสน่ห์มากกว่าเสียงลูกบอลพลาสติกของพิกเคิลบอล เขาเปรยว่า “พูดกันแบบตรงๆ เสียงของพิกเคิลบอล เป็นเสียงที่น่ารำคาญ”

ทางด้าน ไมค์ นีลลี ซีอีโอสมาคมพิกเคิลบอล ยูเอสเอ (Pickleball USA) มองว่า พิกเคิลบอลและเทนนิสไม่จำเป็นที่จะต้องแข่งกัน ทั้งคู่เป็นเกมที่แตกต่าง “มันสามารถส่งเสริมซึ่งกันและกันได้ มีพื้นที่สำหรับความสำเร็จมากมายสำหรับกีฬาทั้งสองประเภท”

ภาพส่วนหนึ่งของการแข่งขันพิกเคิลบอล รายการ National Mall of Pickleball ที่กรุงวอชิงตัน เมื่อ 28 ก.ย. 2567
ภาพส่วนหนึ่งของการแข่งขันพิกเคิลบอล รายการ National Mall of Pickleball ที่กรุงวอชิงตัน เมื่อ 28 ก.ย. 2567

โดยรวมทั่วสหรัฐฯ มีสนามพิกเคิลบอลทั้งหมดมากกว่า 50,000 แห่ง และยังมีการสร้างสนามใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งหลายแห่งที่ถูกพัฒนาให้เป็นมากกว่าสนามกีฬา ผู้คนจะได้เล่นพิกเคิลบอล พร้อมกินดื่มสังสรรค์อย่างสนุกสนาน

ทอม โคฟ ประธานและซีอีโอสมาคมอุตสาหกรรมกีฬาและฟิตเนส (Sports & Fitness Industry Association - SFIA) กล่าวว่า กระแสพิกเคิลบอลในสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่ตัวเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน สถิติสำคัญหลายประการยังชี้ว่ากระแสดังกล่าวน่าที่จะดำเนินต่อไป

จากการสำรวจของสมาคม SFIA พบว่า ผู้ที่เล่นพิกเคิลบอลจำนวนมากกว่า 8 ครั้งขึ้นไปในช่วงหนึ่งปี มีจำนวนสูงถึง 4.8 ล้านคน

ส่วนกีฬาเทนนิสมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 10% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และภายในปี 2035 สมาคม USTA ตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนผู้เล่นเทนนิสจาก 23.8 ล้านคน ให้เป็น 35 ล้านคน หรือคิดเป็น 1 ใน 10 ของชาวอเมริกันทั้งหมด

ในทัศนะของไฮน์ไลน์ ประธาน USTA มองว่า การเปรียบเทียบเทนนิสกับพิกเคิลบอล ในเชิงทักษะ ความละเอียดอ่อน และความเป็นกีฬา เป็นสิ่งที่นำมาวัดกันไม่ได้ ท้ายที่สุดคนส่วนใหญ่จะเป็นผู้ตัดสินว่า เกมกีฬาใดถูกใจมากที่สุด

  • ที่มา: เอพี

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG