BBC รายงานผลการสำรวจของกลาสดอร์ ที่ทำกับคนทำงานวัยผู้ใหญ่ในอังกฤษราว 2000 คน เกี่ยวกับการใช้เวลาในช่วงพักกลางวัน
36% อยากใช้เวลาพักเที่ยงเป็นการส่วนตัว
28% พึงพอใจที่จะใช้เวลาเพื่อท่องอินเตอร์เน็ต
26% ประสงค์จะไปหาข้าวมื้อเที่ยงกินกับเพื่อนร่วมงาน
23% บอกว่าขอกินมื้อเที่ยงเงียบๆ อยู่ที่โต๊ะทำงานคนเดียว
20% ยอมรับว่าขอใช้เวลาว่างที่หายากนี้กับสื่อสังคมออนไลน์
ในขณะที่อีก 17% 16% 10% และอีก 7% ที่เหลือ เปิดเผยว่าจะเอาเวลาพักเที่ยงนี้ไปทำธุระส่วนตัว ทำกิจกรรมช้อปปิ้งออนไลน์ ออกกำลังกาย และเล่นเกมส์ออนไลน์ ตามลำดับ
แต่จะเห็นได้ว่า 23% หรือราวหนึ่งในสี่ของผู้ที่ถูกสำรวจนี้ ยอมรับว่าต้องใช้เวลาพักเที่ยงเพื่อทานอาหารกลางวันที่เตรียมไว้หรือที่สั่งมาที่โต๊ะทำงานของตัวเอง
คำถามก็คือว่า บางครั้งกลิ่นอาหารที่ไม่พึงประสงค์อาจจะสร้างปัญหาให้กับผู้ร่วมห้องหรือผู้ร่วมงานได้ และนายจ้างหรือบริษัทควรจะออกกฎห้ามการปฎิบัติเรื่องนี้ คือการกินอาหารที่โต๊ะทำงานหรือไม่
คุณเดวิด ดีโซซ่า กรรมการของสมาคมพัฒนาและบริหารทรัพยากรบุคคล CIPD บอกว่าไม่สมควร เพราะจะถือเป็นมาตรการที่คุณแรง และดูจะเป็นการควบคุมแบบผู้ปกครองควบคุมเด็กมากเกินไป
เขาแนะว่า ขณะที่บริษัทไม่ควรจะออกกฎห้ามพนักงานกินอาหารที่โต๊ะนั้น ในทางกลับกัน นายจ้างควรจะหาวิธีสนับสนุนส่งเสริมให้พนักงานออกจากโต๊ะหรือที่ทำงานเพื่อไปกินอาหารที่อื่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เขาบอกว่าเรื่องนี้มีความสำคัญเกี่ยวกับสภาวะความเป็นอยู่ที่ดีของคนทำงานและเป็นเรื่องสำคัญมากในการรักษาผลิตผล รวมทั้งประสิทธิภาพในการทำงานไว้ ด้วยการเปิดโอกาสให้พนักงานได้เปลี่ยนบรรยากาศ หรือรีเซ็ทตัวเองในช่วงเวลาพักเที่ยง เพื่อให้คนเหล่านี้มีความสดชื่น สามารถกลับมาทำงานได้อีกครั้งในช่วงบ่ายโดยไม่รู้สึกเหนื่อยล้าหรือว่าจำเจ เพื่อที่จะลดความผิดพลาดต่างๆ เกี่ยวกับงานลง
ผลการวิจัยก่อนหน้านี้แสดงว่า การได้เปลี่ยนบรรยากาศในช่วงพักกลางวันออกจากโต๊ะหรือที่ทำงานเพียงแค่ 10 นาที จะช่วยเพิ่มประสิทธิผลของการทำงานขึ้นได้
ตัวอย่างของเรื่องนี้เห็นจะได้แก่ คุณแซม หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจของบริษัททดสอบซอฟต์แวร์ ชื่อ แอพแซคตาร์ ซึ่งเขาบอกว่ามักจะมีอาการปวดศีรษะในช่วงบ่ายหลังจากที่ทานอาหารกลางวันที่โต๊ะทำงาน
ซึ่งก็เป็นข้อคิดว่า เราควรจะใช้เวลาว่างเพียงน้อยนิดอาจจะแค่ครึ่งชั่วโมง 45 นาทีหรือ 1 ชั่วโมงในช่วงพักเที่ยง ทำอะไรกันแน่?
แต่คุณทิม ดอเส็ท ซึ่งเป็น Event Manager ของบริษัท เตือนว่าสิ่งสำคัญที่ทางนายจ้างจะต้องส่งสัญญาณว่า พนักงานไม่ควรจะทำงานแบบ nonstop หรือไม่หยุดยั้ง แต่ที่สำคัญก็คือว่าอย่าใช้เวลาทักเที่ยงไปทำกิจกรรมอย่างอื่น อย่างเช่น ช็อปออนไลน์อย่างไม่หยุดยั้ง เพราะจะเป็นการสร้างปัญหาอีกรูปแบบอย่างแน่นอน