เมื่อบุคคลอันเป็นที่รักจากโลกนี้ไป หลายคนอาจได้แต่แหงนมองฟ้า และคิดถึงคนเหล่านั้นว่าจะไปปรากฏอยู่ที่ดาวดวงไหนในจักรวาล ล่าสุดบริษัทอเมริกันเสนอการให้บริการขนส่งดีเอ็นเอของผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่และอัฐิของผู้วายชนม์ขึ้นไปในห้วงอวกาศ เพื่อให้คนบนโลกได้รำลึกถึงพวกเขาได้เพียงแค่แหงนมองไปบนฟ้า
เจอร์รีและเอลิซาเบธ พอลลัส (Gerry and Elizabeth Paulus) ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วสหรัฐฯ และอีกไม่นาน พวกเขาจะต้องเตรียมตัวสำหรับการเดินทางที่เรียกว่าเป็น "ultimate road trip" หรือการท่องเที่ยวแบบขั้นสุด ซึ่งจะพาพวกเขาออกไปสู่ห้วงอวกาศลึกอันไกลโพ้น
คู่รักจากเมืองเมซา รัฐแอริโซนา คู่นี้จะส่งดีเอ็นเอของตนขึ้นสู่อวกาศในภารกิจ Enterprise ของบริษัทเซเลสทิส (Celestis) ในเมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเที่ยวบินรำลึกเพื่อนำเถ้าอัฐิของผู้วายชนม์ขึ้นสู่อวกาศ
เอลิซาเบธกล่าวว่า การเดินทางเพื่อนำดีเอ็นเอขึ้นไปในอวกาศนั้น ทำให้เธอคิดไปถึงอนาคต และแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ที่นั่นจริง ๆ แต่ก็จะได้เป็นส่วนเล็ก ๆ ในอวกาศไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่ทำให้เธอยิ้มได้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการนำอัฐิขึ้นไปบนอวกาศนั้นจะไม่ใช่แนวคิดใหม่ แต่บริษัทเซเลสทิสกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการบินสู่ห้วงอวกาศลึกเป็นครั้งแรก โดยจะโคจรรอบดวงอาทิตย์อย่างไม่มีกำหนด
เที่ยวบินดังกล่าวจะบรรทุกแคปซูลราว 196 แคปซูล รวมทั้งเถ้าอัฐิหรือดีเอ็นเอของบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่นจีน รอดเดนเบอร์รี (Gene Roddenberry) ผู้สร้าง "Star Trek" พร้อมกับเถ้าอัฐิของเจมส์ ดูแฮน (James Doohan) และนิเชล นิโคลส์ (Nichelle Nichols) นักแสดงจากภาพยนตร์เรื่องนี้
นอกจากนี้ยังมีการนำเถ้าอัฐิของประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตัน, ดไวต์ ไอเซนฮาวเออร์ และจอห์น เอฟ. เคนเนดี ขึ้นไปกับเที่ยวบินนี้ด้วย
โคลบี ยังบลัด (Colby Youngblood) ผู้บริหารของเซเลสทิสกล่าวว่า เที่ยวบินนี้จะเดินทางออกสู่ห้วงอวกาศลึกที่อยู่ห่างจากโลกราว 330 ล้านกิโลเมตร ซึ่งที่นั่นจะเป็นอนุสรณ์แห่งอารยธรรมแห่งแรกนอกจักรวาลของเรา
- ที่มา: รอยเตอร์