เป็นที่ทราบกันดีว่า จะต้องมีการเพิ่มเพดานหนี้ให้กับรัฐบาลสหรัฐภายในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ มิฉนั้น รัฐบาล ซึ่งจะมีเงินเหลืออยู่ในคลังราวๆ สามหมื่นล้านดอลล่าร์ จะไม่มีเงินพอที่จะใช้จ่ายเพื่อส่งดอกเบี้ยพันธบัตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ จ่ายค่าประกันสังคมและประกันสุขภาพให้กับคนชรา และค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก
เมื่อวันอาทิตย์ คณะกรรมาธิการฝ่ายนโยบายของทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF มีถ้อยแถลงวิงวอนขอให้ผู้นำของสหรัฐ ดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อปัญหาความไม่แน่นอนทางการคลังในระยะสั้นนี้ ซึ่งเป็นคำเรียกร้องอย่างเดียวกันกับของบรรดาผู้นำทางการเงินของกลุ่มประเทศ G-20 หนึ่งวันก่อนหน้านั้น
นาย Tharman Shammugaratnam ประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายการเงินของ IMF กล่าวว่า การลงทุนของภาคเอกชน ขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่น ซึ่งถ้าไม่มีการแก้ปัญหาการขาดดุลงบประมาณและเรื่องภาระหนี้สินของสหรัฐให้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว ก็เป็นการยากที่จะมีความเชื่อมั่นนั้นได้ เพราะฉนั้น ปัญหาดังกล่าวจึงมีความสำคัญต่อทุกคน
IMF และธนาคารโลกมีการประชุมประจำปีที่กรุงวอชิงตัน ปลายสัปดาห์ที่แล้ว แต่ปรากฎว่า ปัญหาเรื่องงบประมาณและเพดานหนี้ของสหรัฐกลายมาเป็นประเด็นสำคัญบดบังประเด็นอื่นๆในที่ประชุม
นาง Christine Lagarde กรรมการผู้จัดการของ IMF กล่าวว่า ประเด็นเดิมที่ตั้งใจไว้ว่าจะหารือกัน คือการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก แต่เมื่อบรรดาผู้นำประเทศอื่นๆพบว่า สหรัฐกำลังประสบปัญหาภาวะชงักงัน สืบเนื่องมาจากเรื่องงบประมาณและเพดานหนี้ วาระของที่ประชุมเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
กรรมการผู้จัดการของ IMF กล่าวว่า ความรู้สึกของที่ประชุม คือถ้ามีความแตกแยกสับสน การขาดความแน่นอน และการขาดความเชื่อมั่นในฐานะทางการเงินของสหรัฐ ก็จะเกิดความแตกแยกสับสนครั้งใหญ่ทั่วโลกได้
บรรดาผู้นำทางการเงินของประเทศต่างๆที่ไปร่วมการประชุมได้เร่งเร้ากดดันรมต. Jacob Lew ของกระทรวงการคลังสหรัฐ และนาย Ben Bernanke ประธานคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ ให้เร่งรีบแก้ปัญหา และเตือนว่า ถ้าสหรัฐไม่มีเงินจะชำระหนี้ เพราะรัฐสภาไม่อนุมัติให้กู้เงินเพิ่มได้อีก กล่าวคือไม่เพิ่มเพดานหนี้ให้ ก็จะทำให้ดอกเบี้ยสำหรับการกู้เงินในอนาคตสูงขึ้น รวมทั้งเศรษฐกิจโลกก็จะกลับชลอตัวลงอีกอย่างแน่นอน
เมื่อวันอาทิตย์ คณะกรรมาธิการฝ่ายนโยบายของทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF มีถ้อยแถลงวิงวอนขอให้ผู้นำของสหรัฐ ดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อปัญหาความไม่แน่นอนทางการคลังในระยะสั้นนี้ ซึ่งเป็นคำเรียกร้องอย่างเดียวกันกับของบรรดาผู้นำทางการเงินของกลุ่มประเทศ G-20 หนึ่งวันก่อนหน้านั้น
นาย Tharman Shammugaratnam ประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายการเงินของ IMF กล่าวว่า การลงทุนของภาคเอกชน ขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่น ซึ่งถ้าไม่มีการแก้ปัญหาการขาดดุลงบประมาณและเรื่องภาระหนี้สินของสหรัฐให้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว ก็เป็นการยากที่จะมีความเชื่อมั่นนั้นได้ เพราะฉนั้น ปัญหาดังกล่าวจึงมีความสำคัญต่อทุกคน
IMF และธนาคารโลกมีการประชุมประจำปีที่กรุงวอชิงตัน ปลายสัปดาห์ที่แล้ว แต่ปรากฎว่า ปัญหาเรื่องงบประมาณและเพดานหนี้ของสหรัฐกลายมาเป็นประเด็นสำคัญบดบังประเด็นอื่นๆในที่ประชุม
นาง Christine Lagarde กรรมการผู้จัดการของ IMF กล่าวว่า ประเด็นเดิมที่ตั้งใจไว้ว่าจะหารือกัน คือการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก แต่เมื่อบรรดาผู้นำประเทศอื่นๆพบว่า สหรัฐกำลังประสบปัญหาภาวะชงักงัน สืบเนื่องมาจากเรื่องงบประมาณและเพดานหนี้ วาระของที่ประชุมเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
กรรมการผู้จัดการของ IMF กล่าวว่า ความรู้สึกของที่ประชุม คือถ้ามีความแตกแยกสับสน การขาดความแน่นอน และการขาดความเชื่อมั่นในฐานะทางการเงินของสหรัฐ ก็จะเกิดความแตกแยกสับสนครั้งใหญ่ทั่วโลกได้
บรรดาผู้นำทางการเงินของประเทศต่างๆที่ไปร่วมการประชุมได้เร่งเร้ากดดันรมต. Jacob Lew ของกระทรวงการคลังสหรัฐ และนาย Ben Bernanke ประธานคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ ให้เร่งรีบแก้ปัญหา และเตือนว่า ถ้าสหรัฐไม่มีเงินจะชำระหนี้ เพราะรัฐสภาไม่อนุมัติให้กู้เงินเพิ่มได้อีก กล่าวคือไม่เพิ่มเพดานหนี้ให้ ก็จะทำให้ดอกเบี้ยสำหรับการกู้เงินในอนาคตสูงขึ้น รวมทั้งเศรษฐกิจโลกก็จะกลับชลอตัวลงอีกอย่างแน่นอน