สภาผู้เเทนราษฎรสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายตั้งกรุงวอชิงตัน เมืองหลวงของประเทศ ให้เป็นรัฐที่ 51 ด้วยเสียงสนับสนุน 216 ต่อ 208 เป็นไปตามคาด เนื่องจากฝ่ายพรรคเดโมเเครตคุมเสียงข้างมากในสภาผู้เเทนฯ
ร่างกฎหมายดังกล่าว ที่จะนำไปสู่การมีเก้าอี้ส.ว.สองที่นั่ง จากกรุงวอชิงตัน ซึ่งเป็นฐานเสียงของเดโมเเครต น่าจะถูกเเรงต้านอย่างหนักในวุฒิสภา
แม้เดโมเเครตคุมเสียงข้างมากในวุฒิสภาเช่นกัน แต่เสียงของพรรคในวุฒิสภามีเพียงหนึ่งเสียงเหนือรีพับลิกัน ขณะที่การผ่านร่างกฎหมายเปลี่ยนสถานะกรุงวอชิงตัน ต้องใช้เสียงสนับสนุนมากกว่าที่เดโมเเครตมี
ภายใต้ร่างกฎหมายที่ผ่านสภาผู้เเทนฯในวันพฤหัสบดี กรุงวอชิงตันซึ่งมีเพียงส.ส.ที่ไม่มีสิทธิ์โหวตในสภา ถูกเสนอให้เปลี่ยนชื่อเป็น Washington, Douglass Commonwealth
ชื่อดังกล่าวเป็นการให้เกียรติเเก่ เฟเดอริค ดักลาส ผู้นำการรณรงค์เพื่อการเลิกทาสและเพื่อสิทธิคนผิวดำ ซึ่งเขาเป็นชาวกรุงวอชิงตันตั้งเเต่ปี ค.ศ. 1877 จนเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1895
ผู้ที่สนับสนุนการตั้งเมืองหลวงของประเทศเป็นรัฐที่ 51 มองว่า กรุงวอชิงตันมีจำนวนประชากรมากพอ คือราว 712,000 ซึ่งมากกว่ารัฐไวโอมิงและเวอร์มอนต์ในเวลานี้
นอกจากนี้ ประชากรในเมืองหลวงยังจ่ายภาษีให้รัฐบาลกลางเช่นเดียวกันรัฐอื่นๆ แต่ไม่มีผู้ที่เป็นตัวเเทนสนับสนุนหรือคัดค้านกฎหมายต่างๆในสภาได้เท่าเทียมกับ 50 รัฐ
ส.ส.รัฐเวอร์จิเนีย เจอรัล คอนโนลลี จากพรรคเดโมเเครตกล่าวว่า รัฐเคนตัคกีเคยเป็นส่วนหนึ่งของเวอร์จิเนียเเละกลายมาเป็นรัฐอย่างเต็มตัวผ่านกระบวนการของสภา
สำหรับผู้ที่ไม่เห็นด้วย เช่น ส.ส. โจดี ไฮส์ จากรัฐเจอร์เจียสังกัดรีพับลิกันกล่าวว่า ผู้ก่อตั้งประเทศไม่เคยต้องการให้เมืองหลวงของสหรัฐฯมีสถานะเป็นรัฐ และได้วางกรอบรัฐธรรมนูญไว้เช่นนั้นเเล้ว