ผู้เชี่ยวชาญเรื่องความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์ชี้ว่า ถึงแม้โปรแกรมไวรัสคอมพิวเตอร์ Stuxnet จะไม่สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อการทำงาน ของระบบควบคุมของโรงไฟฟ้าพลังปรมาณูของอิหร่านที่เมือง Bushehr ก็ตาม แต่เรื่องนี้ก็เหมือนเป็นการเปิดประตูให้กับภัยคุกคามต่างๆ ซึ่งก่อนหน้านี้อาจเป็นเพียงทฤษฎีเท่านั้น และนักวิเคราะห์กล่าวว่าภัยคุกคามที่ว่านี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังปรมาณู แต่ยังเป็นภัยต่อโรงงานอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่นโรงงานเคมี โดยอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุทางอุตสาหกรรมขึ้น คล้ายกับที่เคยเกิดกับโรงงานเคมีของบริษัท Union Carbide ที่เมืองโพปาลของอินเดียได้
เนื่องจากการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการทำงานของโรงไฟฟ้าพลังปรมาณูของอิหร่านที่เมือง Bushehr ครั้งนี้มีลักษณะที่ก้าวหน้าและทันสมัย และส่งผลถึงคอมพิวเตอร์อื่นๆ ในอิหร่านอีกราวหกหมื่นเครื่อง จึงมีการตั้งข้อสงสัยว่าสหรัฐฯ กับอิสราเอลอาจอยู่เบื้องหลัง แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีบางคนคิดว่ายังเร็วเกินไปที่จะสรุปเช่นนั้นได้ อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการโจมตีดังกล่าวสร้างคำถามมากกว่าคำตอบ และขณะนี้เป็นการยากที่จะบอกว่าเป้าหมายการโจมตีที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ใด เพราะหลังจากนี้อาจจะมีข่าวการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ทางอุตสาหกรรมในที่อื่นๆ เช่น อินเดีย ปากีสถาน หรืออินโดนีเซียก็เป็นได้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เตือนด้วยว่า ขีดความสามารถในการสร้างความเสียหายต่อระบบการทำงานและระบบข้อมูล โดยโปรแกรมไวรัสคอมพิวเตอร์ Stuxnet นี้เป็นภัยคุกคามที่น่าวิตก และผู้ใช้ระบบต่างๆ รวมทั้งรัฐบาลทั่วโลกจำต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในเรื่องนี้
