การรับสินค้าริมทางที่หน้าร้าน การส่งสินค้าของกินของใช้ถึงบ้าน และการประชุมผ่านระบบซูม (Zoom) กลายเป็นวิถีใหม่สำหรับหลายๆ คนที่ต้องอยู่บ้านท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากบริษัทธุรกิจต่างๆ พยายามมองหาวิธีเอาตัวรอดในช่วงการกักตัว แต่การเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นจะคงอยู่ต่อไปนานแค่ไหน?
เจมส์ ชเรเกอร์ อาจารย์ผู้สอนภาคปฏิบัติที่คณะบริหารธุรกิจ Booth ของ มหาวิทยาลัยแห่งชิคาโก บอกกับ วีโอเอ ผ่านทางอีเมลว่า ที่จริงแล้วเขาไม่ได้มองว่าแนวทางปฏิบัติสำหรับธุรกิจต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงการเกิดโรคระบาดใหญ่นั้นจะคงอยู่ต่อไปอีกนาน
จะเห็นได้ว่าผู้คนยังชอบที่จะออกไปซื้อหาสินค้าด้วยตัวเอง ธุรกิจการบินก็กลับมาเฟื่องฟู หลายๆ คนต้องการจะกลับไปเรียนในชั้นเรียน ธุรกิจส่งอาหารก็ไม่ได้เติบโตขึ้น แต่กลับกำลังชะลอตัวลง และคนส่วนใหญ่รู้ดีว่าการส่งของถึงบ้านไม่ใช่ธุรกิจที่จะทำกำไรได้ดีสำหรับผู้ค้าปลีกสินค้าประเภทของกินของใช้ นอกจากนี้ผู้คนต่างดีใจที่ได้กลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายตามปกติ แม้กระทั่งธุรกิจเรือสำราญก็เริ่มมีลูกค้าจองแล้วเช่นเดียวกัน และว่าการกลับสู่ภาวะปกตินั้นเกือบจะสมบูรณ์แล้ว
แต่การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่เกิดขึ้นจากโควิด-19 นั้นอาจคงอยู่ยาวนานกว่า
การศึกษาที่ทำขึ้นโดยบริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจ BDO Digital แสดงให้เห็นว่าการระบาดใหญ่บังคับให้บรรดาธุรกิจต้องเปลี่ยนไปใช้ระบบดิจิทัล โดย 90% ขององค์กรในตลาดระดับกลางวางแผนที่จะรักษาหรือเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านดิจิทัลในปี 2021 และ 53% วางแผนที่จะฝึกอบรมพนักงานเพื่อพัฒนาความสามารถในการใช้ระบบดิจิทัลด้วย
อาจารย์ ชเรเกอร์ กล่าวอีกว่าการเปลี่ยนแปลงจากการเกิดโรคระบาดใหญ่ที่จะคงอยู่ไปอีกนานอย่างหนึ่งคือการใช้ Zoom ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการประชุมออนไลน์ และว่าอาจมีบริษัทจำนวนมากที่หันไปใช้ระบบดิจิทัล แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคนอเมริกันทั่วไปจะเดินตามรอยธุรกิจเหล่านั้น เพราะในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2021 นี้ ยอดขายออนไลน์คิดเป็นอัตราส่วน 13.6% ของยอดขายทั้งหมด ปกติแล้วยอดขายดังกล่าวเพิ่มขึ้นราว 1% ต่อปีในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สำหรับในช่วงที่มีการระบาดใหญ่นี้ ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% แต่ก็กำลังลดลงจนถึงระดับก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่แล้ว
เขากล่าวต่อไปอีกว่า เมื่อผู้คนเข้าไปซื้อของในร้านไม่ได้ ก็ใช้วิธีการสั่งซื้อของออนไลน์ แต่เมื่อไหร่ที่ร้านเปิด พวกเขาก็จะกลับไปซื้อของในร้านทันที นั่นแสดงให้เห็นว่าผู้คนชอบที่จะออกไปนอกบ้านและรักการชอปปิ้ง และชาวอเมริกันก็ชื่นชอบวิธีการซื้อของแบบนี้มาตลอด
แต่เรื่องของความสะดวกนั้นก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของออนไลน์หรือในร้านค้าก็ตาม
โรเบิร์ต บราวน์ กรรมการผู้จัดการของ BDO Digital กล่าวว่า การซื้อสินค้าออนไลน์ หรือการซื้อในร้านค้านั้นตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง แต่ถ้าหากต้องการซื้อทางออนไลน์และรับสินค้าที่ร้าน หรือซื้อในร้านค้าและอาศัยความสะดวกของบริการออนไลน์เพื่อการคืนสินค้า หรือการรับสินค้าริมทาง สิ่งที่เห็นได้คือการเปลี่ยนแปลงที่ธุรกิจเหล่านี้สร้างขึ้นเพื่อรับมือกับสถานการณ์และประสบการณ์ใหม่ของลูกค้า
และแม้ว่าผู้บริโภคจะมองไม่เห็น แต่ผลกระทบที่ยั่งยืนของการระบาดใหญ่นั้นอาจเป็นการที่หน้าร้านบางแห่งจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กระจายสินค้า อย่างเช่นในธุรกิจร้านอาหาร คุณอาจสั่งอาหารจากร้านหนึ่งที่มีชื่อเสียง แต่ที่จริงแล้วครัวแห่งอื่นซึ่งรับทำอาหารแทน หรือครัวที่ไม่มีหน้าร้านอาจเป็นผู้ทำอาหารภายใต้ชื่อร้านนั้นๆ ก็เป็นได้
อาจารย์ ชเรเกอร์ เชื่อว่าบริการส่งอาหารจะกลับไปอยู่ในระดับที่เคยเป็นก่อนการเกิดโรคระบาดใหญ่ เพราะการนำสินค้าไปส่งให้ลูกค้านั้นมักมีค่าใช้จ่ายมากกว่าการที่ลูกค้ามาซื้อด้วยตัวเองเสมอ ดังนั้นเมื่อร้านอาหารกลับมาเปิดให้บริการเต็มที่ได้อีกครั้ง ร้านต่างๆ ก็ไม่อยากเสียผลกำไรส่วนหนึ่งให้กับแอพฯ ส่งอาหารอีกต่อไป และว่า ท้ายที่สุดแล้ว การระบาดใหญ่จะไม่ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อวิถีการจับจ่ายซื้อสินค้า การทานอาหารนอกบ้าน หรือการใช้ชีวิตโดยทั่วไปของผู้คน
อย่างไรก็ตาม การใช้ Zoom น่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เช่นเดียวกับการไปรับสินค้าที่หน้าร้าน แต่อาจารย์ ชเรเกอร์ เชื่อว่าถ้ามองในแง่ความสนใจของการซื้อสินค้าออนไลน์เทียบกับการไปซื้อของที่ร้านค้าในช่วงที่เกิดปัญหาโควิด-19 นั้น ความสนใจซื้อของออนไลน์เป็นกระแสที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้นเอง