สำนักข่าวเอพีรายงานว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในบางรัฐถูกกล่าวหาว่ารายงานสถิติผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสในรัฐของตนอย่างไม่ถูกต้อง หรือบิดเบือนสถิติให้ออกมาดูน่ากังวลน้อยกว่าความเป็นจริง
สถิติเหล่านี้ถูกนำไปพิจารณาสำหรับการเปิดภาคสังคมและภาคธุรกิจในรัฐต่างๆ ซึ่งมีผลต่อความเสี่ยงในการแพร่ของโรคโควิด-19
ตัวอย่างเช่นในรัฐเวอร์จิเนีย เท็กซัส และเวอร์มอนต์ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรวมข้อมูลผลของการตรวจเชื้อเข้าไปกับผลการตรวจสารแอนติบอดี้ที่สร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งสะท้อนถึงการติดเชื้อก่อนหน้านี้
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการเก็บสถิติด้วยวิธีดังกล่าวมีผลทำให้ ภาพออกมาดูดีในแง่จำนวนผู้ได้รับการตรวจ แต่ไม่ได้ทำให้เกิดภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัส
รัฐเวอร์มอนต์และเวอร์จิเนียได้เลิกรวมสถิติของสองข้อมูลดังกล่าวแล้ว ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ส่วนรัฐเท็กซัส สำนักข่าวเอพียังไม่ทราบข้อมูลที่ชัดเจนถึงแนวทางการเก็บสถิติล่าสุด
ในรัฐฟลอริด้า นักสถิติ รีเบคาห์ โจนส์ ผู้ที่พัฒนาระบบเเสดงข้อมูลการติดเชื้อโควิด-19 กล่าวในสัปดาห์นี้ว่าเธอถูกไล่ออกจากงานเพราะ ไม่ยอมบิดเบือนตัวเลขให้สอดคล้องกับแผนเปิดเมือง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่าได้พยายามติดต่อขอความเห็นจากเจ้าหน้าที่ของรัฐฟลอริด้า แต่ยังไม่ได้รับคำตอบโดยทันที ในวันอังคาร
ในรัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นรัฐแรกๆ ที่ผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแสดงเส้นกราฟ เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ชี้ถึงการชะลอลงของการระบาดในเขตที่ได้รับผลกระทบหนัก
อย่างไรก็ตาม เอพี รายงานว่า การเรียงตัวเลขมิได้นำเสนอสถิติตามช่วงเวลาก่อนหลัง แต่เป็นการจัดเรียงค่าจากมากไปน้อย และภาพกราฟดังกล่าวก็ถูกดึงออกจากระบบข้อมูลหนึ่งวันหลังจากนั้น
ผู้แทนของสภาท้องถิ่น จากพรรคเดโมเเครต เเจสมิน คลาร์ก กล่าวว่าภาพกราฟดังกล่าวเป็นตัวอย่างสำคัญของการกระผิดโดยเจ้าหน้าที่รัฐ
เธอกล่าวว่าเป็นความพยายามทำให้ข้อมูลดูคล้องจองกับนโยบาย แต่ไม่ได้อิงความเป็นจริงตามสถิติที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้คณะทำงานของผู้ว่าการัฐ ไบรอัน เคมป์ แห่งพรรครีพับลิกัน กล่าวว่าไม่ได้มีการหลอกหลวงประชาชนเเต่อย่างใด
เจนนิเฟอร์ นูซโซ่ ผู้เชี่ยวชาญแห่งศูนย์ Johns Hopkins Center for Health Security กล่าวว่า ในกรณีหลายกรณีที่อยู่ในข่าวนี้ เจ้าหน้าที่อาจมิได้ตบตาประชาชน เพราะอาจเป็นผลมาจากการขาดข้อมูลที่ทันสถานการณ์จริง อย่างไรก็ดีเธอชี้ว่าหากมีการวมข้อมูลอย่างไม่เหมาะสมทางสถิติ การตัดสินใจของเจ้าหน้าที่เรื่องการเปิดเมืองก็อาจมีความเสี่ยง
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกเเนวทางสำหรับการพิจารณาเปิดเมือง ซึ่งระบุว่าควรมีการลดลงของจำนวนผู้ติดเชื้อติดต่อกัน 14 วัน แต่ในบางรัฐ ได้เปิดกิจกรรมทางสังคมและภาคธุรกิจแล้ว โดยที่จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ในช่วงขาขึ้น หรือเพียงแค่ทรงตัวเท่านั้น
ปัจจุบัน ในสหรัฐฯ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ที่ 1 ล้าน 5 แสนคน และผู้เสียชีวิตจากโรคนี้อยู่ที่ระดับกว่า 90,000 ราย
