สถานการณ์การระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง และยังคงเป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาดสูงที่สุดในโลก โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นผ่านระดับ 6 ล้านคนไปแล้ว
ข้อมูลจาก มหาวิทยาลัย จอนส์ ฮอพกินส์ ณ บ่ายวันจันทร์ตามเวลาในสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า สหรัฐฯ มีตัวเลขสะสมของผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 6,021,000 คน ขณะที่มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 183,400 คน
มหาวิทยาลัยฯ รายงานด้วยว่า พื้นที่ใน 4 รัฐทาง Midwest หรือภาคทางตะวันตกตอนกลางของประเทศ ประกอบด้วย รัฐไอโอวา นอร์ทดาโคตา เซาท์ดาโคตา และมินนิโซตา เพิ่งรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของตนเมื่อเร็วๆ นี้ ขณะที่ รัฐมอนทานา และไอดาโอ เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลทำสถิติสูงสุดใหม่เช่นกัน
การปรับขึ้นของตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในพื้นที่เหล่านี้มีเหตุมาจากการที่ประชาชนออกมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เช่น ในเขตที่มีสถาบันการศึกษาตั้งอยู่และมีการเรียนการสอนในชั้น รวมทั้งในเขตสเตอจิส ในรัฐเซาท์ดาโคตา ที่เพิ่งจัดงานชุมนุมของสิงห์มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ติดต่อกันหลายวัน และพบผู้ติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 88 คน
อย่างไรก็ดี แม้รัฐดังกล่าวของสหรัฐฯ กำลังกลายมาเป็นพื้นที่ระบาดหนักอยู่ รายงานข่าวแจ้งว่า อัตราการระบาดและเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่อื่นๆ ทั่วสหรัฐฯ กำลังลดลงแล้ว
และขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯ จะยังคงสูงที่สุดในโลก อัตราการติดเชื้อต่อจำนวนประชากรของประเทศกลับอยู่ที่อันดับ 10 ส่วนอัตราการเสียชีวิตต่อจำนวนประชากรอยู่ที่อันดับ 11 ของโลก ตามข้อมูลของสำนักข่าวรอยเตอร์ส
ที่ฝรั่งเศส ทางการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันใหม่หลายพันคนในช่วงที่ผ่านมา และหลังสถานศึกษาเปิดเทอมใหม่เพียง 2 วัน แพทย์ทั่วประเทศเร่งออกมาเรียกร้องให้มีการบังคับใช้มาตรการควบคุมต่างๆ ซึ่งรวมถึง การให้นักเรียนทุกคนสวมหน้ากาก และการเลือกสอนผ่านระบบออนไลน์แล้ว
ฌอง-มิเชล บลองเคอร์ รัฐมนตรีศึกษาธิการฝรั่งเศส บอกกับผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ Journal du Dimanche ว่า ตนได้สั่งให้การเรียนการสอนในบางชั้นปิดในวันอังคารไปก่อน โดยแผนของรัฐบาลในเวลานี้คือ ให้ชั้นเรียนทั้งหมดเปิดสอน โดยบังคับนักเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 11 ปีขึ้นไปให้สวมใส่หน้ากากตลอดเวลา พร้อมทั้งห้ามการจับกลุ่มชุมนุมต่างๆ ด้วย
สำหรับประเทศอื่นๆ ในยุโรป เช่น เดนมาร์ก ทางการสั่งให้สถาบันการศึกษาปรับเปลี่ยนวิธีการสอน เช่น ลดขนาดชั้นเรียน เพิ่มจำนวนครู และจับนักเรียนให้นั่งห่างกัน รวมทั้ง ผสมตารางการสอนแบบทั้งในชั้นและแบบออนไลน์เข้าด้วยกัน
ที่อิตาลี ซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดหนักในช่วงแรก เริ่มกลับมาเห็นจำนวนผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้ โดยรายงานระบุว่า มีผู้ป่วยดังกล่าวถึง 86 คนในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับตัวเลข 38 คน เมื่อเดือนที่แล้ว
ขณะเดียวกัน รัฐบาลนิวซีแลนด์ อนุญาตให้โรงเรียนและภาคธุรกิจกลับมาเปิดทำการในวันจันทร์ แต่บังคับให้ทุกคนที่ใช้ระบบขนส่งสาธารณะต้องสวมหน้ากากตลอดเวลาด้วย