สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ยังคงน่าเป็นห่วง ด้วยอัตราการติดเชื้อและเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บางประเทศต้องดำเนินมาตรการจำกัดเพิ่มเติมเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อ
รายงานจากมหาวิทยาลัย จอนส์ ฮอพกินส์ ณ บ่ายวันจันทร์ตามเวลาในสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่กว่า 199,700 คน แล้ว ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่กว่า 6.8 ล้านคน
พื้นที่ซึ่งมีการระบาดเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมาคือแถบภาคตะวันตกเฉียงใต้และแถบตอนกลางฝั่งตะวันตกของประเทศ โดยปัจจัยหลักของการติดเชื้อเพิ่มขึ้นคือการเปิดภาคเรียนใหม่ในบริเวณดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ในยุโรป รัฐบาลหลายแห่งตัดสินใจดำเนินมาตรการควบคุมการระบาดชุดใหม่อย่างถ้วนหน้า อาทิ ที่อังกฤษ ซึ่งรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ประจำวันจันทร์ที่กว่า 4,300 ราย และส่งผลให้ตัวเลขสะสมพุ่งขึ้นเกินระดับ 400,000 รายแล้ว ทำให้ทีมที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของรัฐบาลต้องออกแถลงการณ์ทันที เพื่อยืนยันกับประชาชนว่า การรับมือการระบาดของประเทศนั้นกำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ผิด และกำลังอยู่ในจุดวิกฤติแล้ว
แมทท์ แฮนค็อค รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า อังกฤษอาจจะต้องเตรียมใช้มาตรการจำกัดต่างๆ อีกครั้ง ถ้าหากประชาชนไม่ยอมปฏิบัติตามกฎที่จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกลุ่มชุมนุมในที่สาธารณะไม่ให้เกิน 6 คน ซึ่งนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ประกาศใช้เมื่อต้นเดือนนี้เอง
ส่วนที่ฝรั่งเศส ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้หน่วยงานสาธารณสุขต้องเปิดศูนย์ทดสอบการติดเชื้อเพิ่มในกรุงปารีส ขณะที่ อิตาลี ประกาศในวันจันทร์ว่า รัฐบาลจะบังคับให้ผู้ที่เดินทางมาจากเมืองหลวงและบางพื้นที่ของฝรั่งเศสต้องเข้ารับการทดสอบการติดเชื้อในเร็วๆ นี้
ที่สเปน รัฐบาลออกคำสั่งในวันจันทร์ ห้ามประชาชนในกรุงแมดริด เดินทางไปยังหรือออกมาจากพื้นที่ชุมชนที่ถูกสั่งล็อคดาวน์บางส่วนเพื่อหยุดการระบาดของโควิด-19 แล้ว