เป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่คนทั่วโลกพยายามหรือถูกสั่งให้รักษาระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ แต่การที่ไม่ได้เข้าใกล้ผู้อื่นนานเช่นนี้ ทำให้เกิดคำถามว่า ระบบภูมิคุ้มกันในตัวคนเราจะอ่อนแอลงไปด้วยได้หรือไม่
สำนักข่าว Associated Press สอบถามผู้เชี่ยวชาญและได้คำตอบว่า “ไม่” เพราะแม้เราต้องรักษาระยะห่างจากผู้อื่นราว 6 ฟุต หรือ 2 เมตรอยู่ หรือใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในบ้าน ร่างกายของมนุษย์ยังคงมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อแบคทีเรียจำนวนมหาศาลและเชื้อโรคต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไปทั้งในบ้านและนอกบ้านเสมอ
อากิโกะ อิวาซากิ นักวิจัยด้านระบบภูมิคุ้มกัน จากมหาวิทยาลัยเยล กล่าวว่า เพราะคนเราต้องเผชิญกับจุลินทรีย์มากมายอยู่ประจำ ระบบภูมิคุ้มกันนั้นจึงต้องทำงานตลอดเวลาอยู่แล้ว
นอกจากนั้น อิวาซากิ ชี้ว่า บรรดาวัคซีนที่คนเราได้รับตั้งแต่สมัยเป็นเด็กรวมทั้งการที่ร่างกายสั่งสมภูมิคุ้มกันขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอยังเป็นสิ่งที่มีผลเป็นระยะเวลายาวนาน และจะไม่อันตรธานหายไปชั่วข้ามคืนอย่างง่ายๆ เพียงเพราะเราต้องรักษาระยะห่างจากผู้อื่นในช่วงที่มีวิกฤตการระบาดนี้
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญแนะนำผู้ที่ต้องการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันสุขภาพในช่วงที่การระบาดของโควิด-19 ยังดำเนินอยู่ ให้หมั่นฝึกฝนนิสัยบางอย่าง เช่น การจัดการกับความเครียด การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการพักผ่อนหลับนอนอย่างพอเพียง โดยอิวาซากิ ย้ำว่า ปัจจัยต่างๆ ที่ว่านี้ คือสิ่งที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันมากกว่าต่างหาก
และท้ายที่สุด สำหรับช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้ การไปรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดตามฤดูกาล คือสิ่งที่จะสามารถช่วยป้องกันตัวเองจากอาการป่วยอีกโรคหนึ่งได้ด้วย
