อัตราการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นสูงทำให้รัฐบาลอิตาลีบังคับใช้มาตรการควบคุมที่เข้มข้นขึ้น จนทำให้ประชาชนบางส่วนไม่พอใจและออกมาประท้วง ขณะที่รัฐบาลรัสเซียตัดสินใจบังคับกฎใหม่เพื่อสู้กับการระบาด
ชาวอิตาเลียนในพื้นที่กว่า 15 เมืองออกมาร่วมประท้วงมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 2 ขณะที่เหตุการณ์มีความรุนแรงในบางแห่ง เช่น ตูริน มิลาน เนเปิล และโรม ที่ผู้ชุมนุมบุกรุกเข้าไปขโมยของตามร้าน ทำลายรถรางของเมือง และจุดไฟเผาถังขยะ
จุสเซปเป คอนเต นายกรัฐมนตรีอิตาลียอมรับว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนทั้งในด้านสังคมและเศรษฐกิจ พร้อมย้ำว่า ทีมงานรัฐบาลกำลังวางแผนช่วยเหลืออยู่ และว่าได้มีการจัดสรรเงินชดเชยให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการจำกัดใหม่ๆ นี้ ซึ่งหวังว่าจะช่วยให้กระแสความไม่พอใจในหมู่ประชาชนลดลงไปได้
อย่างไรก็ตาม นักการเมืองฝ่ายค้านจำนวนหนึ่งรวมทั้งสมาชิกรัฐสภาอิตาลีที่เป็นฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาลบางรายไม่เห็นด้วยกับมาตรการเข้มงวดชุดใหม่ ที่จะทำร้ายเศรษฐกิจของประเทศที่อยู่ในฐานะย่ำแย่หนักอยู่แล้ว
และขณะที่เจ้าของธุรกิจหลายรายแสดงความกลัวว่าอาจจะต้องปิดกิจการเป็นการถาวรเพราะมาตรการชุดล่าสุดนี้ นักวิทยาศาสตร์บางส่วนให้ความเห็นว่า มาตรการที่มีกำหนดใช้ถึงวันที่ 24 พฤศจิกายนนั้นไม่เพียงพอและความสามารถในการรับผู้ป่วยพิเศษในโรงพยาบาลอาจจะมีปัญหาไม่เพียงพอแล้ว
ส่วนที่รัสเซีย รัฐบาลออกคำสั่งบังคับให้ประชาชนทั่วประเทศต้องใส่หน้ากากเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ ระบบขนส่งสาธารณะ แท็กซี่ ที่จอดรถ และลิฟท์ ตั้งแต่วันพุธเป็นต้นไป หลังรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันอังคารที่ 320 ราย และมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 16,550 ราย
นอกจากนั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยผู้บริโภคและสาธารณสุขของรัสเซีย ยังแนะนำให้ทางการท้องถิ่นต่างๆ พิจารณาดำเนินมาตรการเคอร์ฟิวสำหรับสถานบันเทิง ร้านกาแฟ ภัตตาคารและบาร์ตั้งแต่เวลา 23 นาฬิกา ถึง 6 นาฬิกาด้วย
ปัจจุบัน รัสเซียคือประเทศที่มีอัตราการระบาดของโควิด-19 สูงเป็นอันดับที่ 4 ของโลก ด้วยตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 1.5 ล้านคน และมีการรายงานการติดเชื้อใหม่รายวันถึงวันละไม่น้อยกว่า 15,000 คนมาตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา