ต้นทุนจากการตอบโต้ทางภาษีสินค้านำเข้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นแบบหมัดแลกหมัดในช่วงปีที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้บริโภคอเมริกัน ที่ต้องแบกรับต้นทุนจากสินค้านำเข้าจากจีนที่สูงขึ้นอย่างมาก
รัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จัดสรรเงินช่วยเหลือไปแล้ว 8,500 ล้านดอลลาร์ ให้กับเกษตรกรอเมริกัน เพื่อชดเชยความเสียหายจากยอดขายสินค้าเกษตรที่ส่งไปยังจีนและประเทศคู่ค้าอื่นๆ จากเป้าหมายเดิมที่สหรัฐฯ ต้องจัดสรรเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลือง ข้าวสาลี และข้าวโพด และผู้เลี้ยงสุกร 12,000 ล้านดอลลาร์ ที่ได้รับผลกระทบจากการที่จีนหันไปนำเข้าสินค้าเกษตรเหล่านี้จากประเทศอื่นแทนสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้มาตรการภาษีของสหรัฐฯ ตั้งแต่ปีที่แล้ว
ผลกระทบจากสงครามการค้ายังสะเทือนมาถึงผู้บริโภคอเมริกัน โดยบริษัทที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ Trade Partnership Worldwide ในกรุงวอชิงตัน ประเมินว่า ครอบครัวอเมริกันที่มีสมาชิก 4 คน จะต้องจ่ายเงินซื้อสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นราว 2,300 ดอลลาร์ หรือราว 71,300 บาทต่อปี หลังจากสหรัฐฯขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนเป็นร้อยละ 25 ซึ่งจะมีผลต่อสินค้าหลายประเภท รวมทั้ง เสื้อผ้า ของเล่นเด็ก อุปกรณ์กีฬา รองเท้า และเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่หากสหรัฐฯ ไม่เปลี่ยนแปลงมาตรการภาษีไปจากเดิม ครัวเรือนอเมริกันก็ยังต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นราว 770 ดอลลาร์ หรือราว 24,000 บาทต่อปี สำหรับการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคอยู่ดี