ลิ้งค์เชื่อมต่อ

เปิดใจนักศึกษาไทยในเมืองอู่ฮั่น รอความช่วยเหลือจากภายนอก


เปิดใจนักศึกษาแพทย์ไทยในอู่ฮั่น กับชีวิตท่ามกลางวิกฤติ 'โคโรนาไวรัส'

please wait

No media source currently available

0:00 0:04:57 0:00

บดีภัค เกาสละ เป็นนักศึกษาแพทย์ชาวไทย อายุ 23 ปี ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองอู่ฮั่นมาเป็นปีที่ 5 แล้ว โดยก่อนหน้าจะมาศึกษาที่ประเทศจีน เขาศึกษาที่ประเทศอินเดียตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จนสำเร็จชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และตัดสินใจมาศึกษาต่อระดับชั้นปริญญาตรีที่วิทยาลัยแพทย์ทงจีแห่งมหาวิทยาลัยหัวจง ประเทศจีน ตามรอยพี่สาว โดยมองว่าที่ชีวิตที่จีนดี มีอิสระมากกว่า และไม่เคยคาดคิดว่าจะมาตกอยู่ในสถานการณ์อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ระดับความเครียดเพิ่มขึ้น หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มเท่าตัวช่วงข้ามคืน

บดีภัค ยอมรับกับ วีโอเอ ไทย ว่าในช่วงแรกที่ทราบข่าวการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่เมื่อราว 2 สัปดาห์ก่อน จากการกระจายข่าวของรัฐบาลจีน ผ่านทางแอพพลิเคชั่น WeChat ไม่ได้รู้สึกกลัวหรือเครียดแต่อย่างใด เนื่องจากอาการทั่วไปของผู้ติดเชื้อคือ ไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล เหมือนอาการไข้หวัดธรรมดา จนกระทั่ง จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเท่าตัวภายในช่วงเวลาข้ามคืนจนถึงหลักพัน พร้อมๆ กับคำสั่งปิดเมือง และกรณีเสียชีวิตที่พุ่งขึ้น

เขาไม่แน่ใจว่ามีนักศึกษาไทยอยู่ที่เมืองอู่ฮั่นทั้งหมดกี่คน แต่ในรายชื่อที่ลงทะเบียนไว้กับสถานกงสุลไทยมีจำนวนกว่า 160 คน ซึ่งรวมทั้งนักศึกษา คนที่มาทำงาน คนที่เดินทางมาเยี่ยมและท่องเที่ยวที่เมืองอู่ฮั่น โดยนักศึกษาที่วิทยาลัยแพทย์ทงจี นี้มีอยู่ 6 คนซึ่งพูดคุยกันประจำผ่านกลุ่ม Chat ในแอพ WeChat เพื่อให้ความช่วยเหลือกันและกัน ในช่วงที่สภาพความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก ในภาวะเมืองที่ปิดตาย หรือ lock down นี้ ซึ่งทำให้เมืองร้าง เพราะทางการห้ามไม่ให้รถวิ่งบนถนน และร้องขอให้ผู้คนหลีกเลี่ยงการออกภายนอกอาคาร ส่วนผู้ที่เดินทางมาข้างนอก ต้องใส่หน้ากาก ระมัดระวังการสัมผัสกับผู้อื่น และล้างมือทุกครั้ง ทั้งก่อนและหลังกลับเข้าบ้านหรือที่พัก

ความลำบากชีวิตภายในอู่ฮั่น

เมื่อถามว่า สถานการณ์ภายนอกเป็นอย่างไร บดีภัค ยอมรับว่าลำบากสำหรับทุกคน เพราะการเดินทางออกไปภายนอกถูกจำกัด ขณะที่ทุกคนจำเป็นต้องซื้อหาเสบียงมาเก็บไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

นักศึกษาชาวไทยท่านนี้ บอกว่า ตัวเองสามารถหาอาหารมาสำรองไว้ได้ถึง 3 สัปดาห์ และเพื่อนชาวไทยบางคนสามารถกักตุนไว้มากพอเป็นเดือน ขณะที่บางคนหาซื้อไม่ทัน หรือไม่ก็ต้องพบกับการปรับขึ้นราคาสินค้า 3-4 เท่า พร้อมกับยอมรับว่า ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าใด โอกาสที่จะหาซื้อเสบียงยิ่งน้อยลงเท่านั้น

ส่วนการช่วยเหลือกันจากรัฐบาลจีนนั้น บดีภัค บอกว่า มีเพียงการส่งคนมาช่วยดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาลเท่าน้น ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งรวมถึงอาจารย์ของนักศึกษาท่านนี้ต้องทำงานอย่างหนักในช่วงนี้

รอวันออกจากอู่ฮั่น

บดีภัค บอกว่า สถานการณ์ในปัจจุบัน ทำให้คนในเมืองอู่ฮั่นล้วนต้องการเดินทางออกจากพื้นที่การระบาดโดยเร็ว แต่ทุกคนคงต้องทำใจไว้ หากไม่สามารถเดินทางออกจากอู่ฮั่นได้ และสถานการณ์การระบาดยืดเยื้อจนควบคุมไม่อยู่

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความกังวลจะสูงขึ้นในเมืองอู่ฮั่น นักศึกษาแพทย์ท่านนี้ ยังมีความหวังอยู่ว่า ความช่วยเหลือที่รอคอยจะมาถึงในไม่ช้า โดยเฉพาะเมื่อได้รับข่าวว่ารัฐบาลไทยเตรียมส่งเครื่องบินมารับ ทันทีที่ทางการจีนอนุญาตให้มีการนำเครื่องเข้ามาในเมืองได้ โดยล่าสุด สำนักข่าว NHK World รายงานว่า เครื่องบินเช่าเหมาลำ พร้อมทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่รัฐ ได้ลงจอดที่สนามบินเมืองอู่ฮั่นในคืนวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น เพื่ออพยพชาวญี่ปุ่นที่ประเมินว่ามีอยู่ราว 650 คนออกจากเมืองเรียบร้อยแล้ว

XS
SM
MD
LG