การระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ยังคงเป็นสถานการณ์ที่นานาประเทศกังวล หลังพบผู้ติดเชื้อในยุโรปและตะวันออกกลาง แต่องค์การอนามัยโลกยังมั่นใจว่า วิกฤติการณ์ครั้งนี้จะไม่ยกระดับขึ้นเป็นเป็นการระบาดในวงกว้างทั่วโลก หากทุกประเทศรับมือเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก เทดรอส เอดานอม เกเบรยีซุส ออกมาเตือนนานาประเทศว่า การระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 อยู่ในระดับที่ทุกฝ่ายต้องดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาด พร้อมเตรียมตัวรับมือกับความเสี่ยงของการระบาดวงกว้างทั่วโลกในอนาคต
องค์การอนามัยโลกรายงานว่า ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในจีนว่ามีการลดลง หลายประเทศกลับมีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วกว่าในจีนแล้ว
อย่างไรก็ดี เกเบรยีซุส ยังมั่นใจว่า สถานการณ์อาจไม่เลวร้ายไปอย่างที่กลัว
ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า ถ้าประเทศต่างๆ มีความจริงจังกับเรื่องนี้ ก็จะควบคุมการแพร่กระจายของโควิด-19 ได้ ทั้งยังจะป้องกันไม่ให้คนในประเทศต้องตกเป็นเหยื่อ ไม่เจ็บป่วย หรือเสียชีวิตเพราะไวรัสนี้ ดังนั้น เกเบรยีซุส จึงแนะนำให้รัฐบาลที่เกี่ยวข้องรีบลงมือดำเนินมาตรการต่างๆ อย่างแข็งขันและจริงจัง เพราะการลงมือจัดการสิ่งต่างๆ โดยเร็วจะป้องกันไม่ให้ไวรัสฝังตัวในพื้นที่ได้
เกเบรยีซุส ยังกล่าวด้วยว่า การแพร่กระจายของไวรัสไปยังประเทศอื่นๆ นอกทวีปเอเชียซึ่งเป็นที่เริ่มต้นของการระบาด เป็นการเตือนให้ทั่วโลกต้องเตรียมพร้อมไม่ให้โควิด-19 มีโอกาสแทรกซึมเข้ามาในประเทศของตน รวมทั้งเตรียมตัวให้การรักษาผู้ป่วยเพื่อไม่ให้มีโอกาสแพร่เชื้อแก่คนอื่นด้วย
เขายืนยันว่า ทุกๆ ประเทศต้องมีความพร้อมที่จะตรวจจับเชื้อไวรัสนี้แต่เนิ่นๆ และเตรียมแยกตัวผู้ป่วย สืบหาคนที่ผู้ป่วยมีประวัติติดต่อ ให้การรักษาที่มีคุณภาพ ป้องกันไม่ให้โรงพยาบาลกลายเป็นศูนย์กลางการระบาด และควบคุมไม่ให้มีการแพร่กระจายของไวรัสในชุมชนต่างๆ
แม้ว่า องค์การอนามัยโลกจะยอมรับว่า โควิด-19 มีโอกาสที่จะกลายมาเป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลก และส่งสิ่งจำเป็นในการรับมือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดไปยังนานาประเทศแล้ว เกเบรยีซุส เชื่อว่า ยังมีเวลาที่ประเทศต่างๆ จะควบคุมสถานการณ์ของตนไม่ให้ขยายสู่วงกว้างได้
นอกจากอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์แล้ว องค์การอนามัยโลกได้อบรบบุคลากรด้านสาธารณสุขกว่า 80,000 คนทั่วโลก ผ่านโปรแกรมออนไลน์เพื่อช่วยให้ประเทศต่างๆ เรียนรู้วิธีป้องกัน ตรวจจับ และจัดการกับการติดเชื้อ ในกรณีที่จำเป็นแล้ว
ส่วนที่สหรัฐฯ รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ซึ่งได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้เป็นผู้รับผิดชอบดูแลสถานการณ์โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในอเมริกา แต่งตั้ง เด็บบี้ เบิกซ์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขระดับนานาชาติ ให้เป็นผู้ประสานงานทีมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 ของทำเนียบขาว
เบิกซ์ เป็นแพทย์และเอกอัครราชทูตผู้แทนพิเศษประจำกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ และเป็นหัวหน้าทีมดูแลการระบาดของ HIV/AIDS ในระดับโลก ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา โดยเธอจะทำงานร่วมกับรัฐมนตรีสาธารณสุขสหรัฐฯ อเล็กซ์ อาซาร์ ที่ดูแลทีมเฉพาะกิจโคโรนาไวรัสอยู่
ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 จนถึงบ่ายวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น สหรัฐฯ ยืนยันตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ 60 คน ซึ่งมีทั้งผู้ที่เดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น และผู้โดยสาร 42 คนจากเรือสำราญไดมอนด์ พรินเซส ซึ่งผ่านการคัดกรองที่ญี่ปุ่นก่อนเดินทางกลับสหรัฐด้วย