องค์การอนามัยโลกร่วมมือกับผู้ผลิตวิดีโอเกมส์ชั้นนำหลายราย ในการส่งเสริมให้ผู้คนที่กักตัวอยู่ในบ้านเพื่อป้องกันการติดเชื้อและการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ให้หันมาเล่นเกมส์ออนไลน์ในระหว่างที่ปฏิบัติตามหลักการรักษาระยะห่างทางสังคม
การร่วมมือระหว่างองค์การอนามัยโลกและภาคธุรกิจเกมส์ครั้งนี้มีขึ้น หลังมีการพบว่าเกมส์ออนไลน์กลายมาเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงที่ผ่านมา
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน เมื่อกลางเดือนมีนาคม ว่า เทเลคอม อิตาเลีย บริษัทผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำแห่งหนึ่งของอิตาลี ประกาศว่า อัตราการใช้งานอินเตอร์เน็ตของบริษัท เพิ่มขึ้นถึงกว่า 70% นับตั้งแต่รัฐบาลบังคับใช้กฎเรื่องการกักตัวเฝ้าระวังอาการ โดยระบุว่า สาเหตุหลักก็คือการเล่นวิดีโอเกมส์ออน์ไลนนั่นเอง
ในสหรัฐฯ เวไรซอน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต รายงานเช่นกันว่า ผู้ใช้งานของตนมีการทำกิจกรรมเล่นเกมส์ออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 75% ในช่วงสัปดาห์ที่สองของเดือนมีนาคม เมื่อนโยบายการให้ประชาชนอยู่ในบ้านมีผลบังคับใช้
ในส่วนของความร่วมมือล่าสุดนี้ บริษัทผู้ผลิตเกมส์ 18 รายยืนยันการทำงานกับองค์การอนามัยโลกในการออกแคมเปญที่ชื่อ #PlayApartTogether
ทางบริษัทเหล่านี้กล่าวว่า จะแชร์ข้อความเชิญชวนให้ผู้เล่นเกมส์ปฏิบัติตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ซึ่งจะรวมถึงเรื่องการรักษาระยะห่างระหว่างกันและการรักษาความสะอาด รวมทั้งการปฏิบัติตนท่ามกลางผู้คนเพื่อป้องกันการระบาดและหลีกเลี่ยงการติดไวรัส
ที่ผ่านมา กิจกรรมและการแข่งขันการเล่นเกมส์สำคัญๆ ในสหรัฐฯ ถูกยกเลิกไปแล้วเนื่องจากการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ และบริษัททั้งหลายเริ่มคิดแผนนำเสนอกิจกรรมพิเศษใหม่ๆ สำหรับผู้เล่นเกมส์ออนไลน์ที่จะจัดขึ้นในเร็วๆ นี้แล้ว
อย่างไรก็ดี นโยบายส่งเสริมการเล่นเกมส์นี้เป็นการกลับลำของจุดยืนขององค์การอนามัยโลกที่ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่แล้วว่า พฤติกรรมการติดเกมส์นั้นเป็นอาการป่วยทางจิตชนิดหนึ่งที่ต้องรับการบำบัดรักษาเช่นเดียวกับโรคอื่นๆ
