สภาคองเกรสสหรัฐฯ เตรียมเรียกตัวนักวิทยาศาสตร์อาวุโสที่ส่งเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำที่มิชอบของรัฐบาลในการรับมือการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เพื่อมาให้การเพิ่มเติม
แอนนา เอสชู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัฐสภามีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ หลังได้รับคำร้องเรียนของ ดร. ริค ไบรท์ ที่กลายมาเป็น whistleblower หรือผู้แจ้งเบาะแสการกระทำที่มิชอบ เกี่ยวกับการที่ผู้บริหารรัฐบาลจำนวนหนึ่งทำการตอบโต้เขา ที่เรียกร้องให้มีการใช้ข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์คัดกรองข้อเสนอต่างๆ และการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการปฏิบัติการรับมือสถานการณ์ให้เข้มข้นกว่าที่เป็นอยู่
เอสชู กล่าวว่า เธอต้องการได้ข้อมูลเพิ่มจาก อเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และ โรเบิร์ต คาดเล็ค ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการการเตรียมการและการรับมือ เพื่อเข้าใจสถานการณ์ให้ดีขึ้น
เธอ กล่าวเพิ่มเติมว่า คำร้องเรียนของ ดร.ไบรท์ กล่าวหาว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันทำการเอื้อประโยชน์ให้กับเพื่อนฝูงและสนใจแต่ประโยชน์ของคนในกลุ่ม มากกว่าจะมุ่งปกป้องประชาชนชาวอเมริกันในช่วงภาวการณ์ระบาดใหญ่นี้ ซึ่งคำกล่าวหาเช่นนี้จำเป็นต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติม
รายงานข่าวระบุว่า ดร.ไบรท์ อ้างว่า โรเบิร์ต คาดเล็ค ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการการเตรียมการและการรับมือ กดดันให้ทีมงานของเขา จัดสรรการลงทุนให้กับยาและวัคซีนที่ไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์มายืนยันประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึง ยาต้านมาลาเรีย ไฮดรอกซี่คลอโรควิน ด้วย
นอกจากนั้น ดร.ไบรท์ ยังร้องเรียนด้วยว่า ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ เพิกเฉยต่อคำเตือนของเขาให้เตรียมความพร้อมแต่เนิ่นๆ ด้วยการจัดหาอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ เช่น หน้ากากอนามัย เครื่องช่วยหายใจ และชุดทดสอบการติดเชื้อ ทั้งยังไม่สนใจข้อเสนอของผู้ผลิตหน้ากากรายหนึ่ง ที่พร้อมผลิตอุปกรณ์ดังกล่าวมากขึ้น หากรัฐบาลจะสนับสนุน
ดร.ไบรท์ อ้างด้วยว่า เขาถูกย้ายไปทำงานในตำแหน่งอื่นเพราะสิ่งที่เขาทำไปทั้งหมด แต่แถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขที่ออกมาเมื่อวันอังคาร ชี้แจงว่า ดร.ไบรท์ถูกย้ายไปรับผิดชอบงานด้านระบบการทดสอบอาการ ซึ่งมีความสำคัญเช่นกัน
ขณะเดียวกัน ดร. ลีนา เวิน แพทย์แผนกฉุกเฉินและอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัย จอร์จ วอชิงตัน บอกกับผู้สื่อข่าว วีโอเอ ว่า จุดสำคัญของการรับมือการระบาดโควิด-19 นั้น ต้องเน้นเรื่องของวิทยาศาสตร์ เพราะนั่นจะเป็นกระบวนการที่จะช่วยพิสูจน์ว่ายาตัวใดมีประสิทธิภาพหลังการทดสอบในห้องทดลองแล้ว
ดร. เวิน กล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ เสียเวลาอันมีค่าไปมากมาย ทำให้ไม่ได้เตรียมพร้อมรับการระบาดของโควิด-19 ซึ่งจะช่วยให้ระบบสาธารณสุขของประเทศมีความสามารถมากกว่าที่เป็นอยู่