ขณะที่ผู้ว่าการในบางรัฐของสหรัฐฯ ค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐบาลกลางประกาศเพิ่มรายการของอาการป่วยที่ต้องสงสัยว่าเป็นผลมาจากการติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ขณะที่ทำเนียบข่าวประกาศระงับการแถลงข่าวรายวันเกี่ยวกับภาวะการระบาดใหญ่นี้เป็นการชั่วคราว
ก่อนหน้านี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อสหรัฐฯ หรือ CDC ชี้แจงว่า อาการที่บ่งชี้ว่าอาจเป็นการติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ คือ อาการไข้ หายใจติดขัด และอาการไอ แต่ล่าสุด เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐฯ ประกาศในวันจันทร์ว่า อาการหนาวสั่นตลอดเวลา ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ เจ็บคอ และสูญเสียการรับรู้กลิ่นและรส อาจเป็นสัญญาณเพิ่มเติมของผู้ป่วยโควิด-19
การประกาศเพิ่มเติมรายการของอาการบ่งชี้การติดเชื้อนี้มีออกมาขณะที่ ผู้ว่าการรัฐ โคโลราโด มิสซิสซิปปี มอนทานา และเทนเนสซี อนุญาตให้ธุรกิจบางประเภทเปิดทำการได้อีกครั้งในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังรัฐจอร์เจีย โอกลาโฮมา อะแลสกา และเซาธ์ แคโรไลนา เร่งเปิดภาคธุรกิจและอนุญาตให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ เหมือนก่อนมีการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเจ้าหน้าที่รัฐหลายราย แสดงความไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นแห่งแร่งที่ประกาศพร้อมผ่อนคลายมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะการยอมให้ร้านอาหารเปิดทำการได้
ทั้งนี้ CDC ได้ร่างแนวทางการปฏิบัติสำหรับการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ไว้ ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติ โดยมี อาทิ การให้บริษัทสั่งปิดห้องส่วนกลางสำหรับพนักงานพักดื่มกาแฟชั่วคราว การให้ร้านอาหารใช้เมนูแบบใช้ครั้งเดียว และการที่โบสถ์ต่างๆ ระงับการร้องเพลงประสานเสียงไว้ก่อน เป็นต้น
แต่ในรัฐนิวยอร์กที่มีการระบาดรุนแรงที่สุดนั้น ผู้ว่าการรัฐ แอนดรูว์ คูโอโม ยืนยันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าคำสั่ง Lockdown จะคงมีผลถึงวันที่ 15 พฤษภาคม และในพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบหนัก อาจจะให้ธุรกิจก่อสร้างและโรงงานต่างๆ กลับมาทำงานได้อีกครั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่จะดูสถานการณ์ต่อไปอีก 2 สัปดาห์ก่อนพิจารณาการผ่อนคลายเพิ่มเติม
และในวันจันทร์นี้เอง ทำเนียบขาวประกาศขอระงับการแถลงข่าวประจำวันกรณีการระบาดของโควิด-19 ชั่วคราว ขณะที่ทีมงานเฉพาะกิจทำการปรับเปลี่ยนการทำงานมาเน้นเรื่องการเปิดภาคธุรกิจในประเทศแทน
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา การแถลงข่าวประจำวันที่นำโดยปธน.ทรัมป์ กลายมาเป็นประเด็นถกเถียงหนัก หลังผู้นำสหรัฐฯ พูดถึงการฉีดยาฆ่าเชื้อเข้าไปในร่างกายเพื่อรักษาโควิด-19 ที่ทำให้แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข และผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ต้องออกมาเตือนประชาชนไม่ให้ดื่มหรือฉีดสารดังกล่าวเป็นอันขาด
