สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ ลงมติผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับชาวอเมริกันและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบหนักจากการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 หลังวุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติเมื่อวันพุธ ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว
ในการประชุมสภาในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น สภาผู้แทนฯ สหรัฐฯ ใช้เวลาไม่นานเพื่อลงมติผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้โดยด่วนที่สุด ขณะที่ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยของสมาชิกสภาฯ ที่ต้องเข้าร่วมการลงมติครั้งนี้ ไม่ให้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ด้วย
หลังจากนี้ ร่างกฎหมายความช่วยเหลือมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นแผนช่วยเหลือที่มีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ จะถูกส่งไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัปม์ ลงนามรับรองเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
ก่อนหน้าที่ สภาล่างสหรัฐฯ จะลงมติผ่านร่างสำเร็จ โธมัส แมสซี่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ ของพรรครีพับลิกัน จากรัฐเคนตักกี้ ออกมาคัดค้านกระบวนการลงมติด้วยเสียง ซึ่งหมายความว่า สมาชิกสภาฯ ไม่จำเป็นต้องปรากฎตัวในสภาฯ เพื่อช่วยให้กระบวนการนี้เดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องให้สมาชิกทุกคนต้องเดินทางมาจากรัฐของตนเอง เพื่อเข้าร่วมประชุมที่กรุงวอชิงตัน ดีซี
แมสซี่ ยื่นเรื่องมายังสภาฯ เพื่อขอให้มีการนับจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมก่อนการลงมติ แต่ท้ายสุด ผู้นำในสภาล่างปฏิเสธคำร้องขอ และเลือกให้ลงมติด้วยเสียงแทน
สำหรับแผนช่วยเหลือที่สภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ อนุมัติออกมานี้ ครอบคลุมความช่วยเหลือในรูปแบบของเช็คมูลค่า 1,200 ดอลลาร์ หรือ 37,800 บาท ที่จะส่งตรงถึงพลเมืองอเมริกันที่มีรายได้ปีละไม่เกิน 75,000 ดอลลาร์ หรือราว 2.3 ล้านบาท และเช็คมูลค่า 2,400 ดอลลาร์ หรือ 75,600 บาท สำหรับคู่สมรสแต่ละคู่ที่มีรายได้รวมต่อปีไม่เกิน 150,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 4.7 ล้านบาท ขณะที่บุตรแต่ละคนจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 500 ดอลลาร์
นอกจากนี้ ยังมีแผนสวัสดิการประกันคุ้มครองการว่างงานคนละ 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ และงบประมาณช่วยเหลือโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานหนักเพื่อดูแลผู้ป่วยโควิด-19 รวมทั้งงบประมาณช่วยเหลือสำหรับธุรกิจขนาดย่อย และวงเงินกู้ 500,000 ล้านดอลลาร์สำหรับบริษัทต่างๆ ที่เดือดร้อน
ทั้งนี้ สำนักข่าวเอพี รายงานเพิ่มเติมว่า ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ แนนซี่ เพโลซี่ เปิดเผยว่า สภาฯ อาจออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหลายหลังจากนี้ด้วย