ในช่วงที่ผู้คนเกือบทั่วโลกต้องเก็บตัวอยู่ในบ้าน เพื่อรักษาระยะห่างทางสังคม เพราะการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 คนดังจากฮอลลีวู้ดหลายคนออกมาโพสต์ข้อความและภาพเพื่อให้กำลังใจผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตินี้ แต่เสียงตอบรับที่ได้ กลับไม่ได้เป็นดังหวัง
หนังสือพิมพ์ เดอะ วอชิงตัน โพสต์ รายงานว่า แกล กาดอท นักแสดงสาวชื่อดังจากภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ Wonder Woman หรือสาวน้อยมหัศจรรย์ เป็นคนแรกๆ ที่โพสต์ภาพตัวเองในห้องเก็บเสื้อผ้าขนาดใหญ่ในบ้านของเธอ พร้อมคำบรรยาย ว่า “การอยู่ที่บ้านคือพลังวิเศษของฉัน” และอีกไม่กี่วันต่อมา กาดอท โพสต์วิดีโอคลิปของตัวเธออยู่ในบ้าน พร้อมบรรยายความรู้สึกที่เธอได้จากการใช้เวลาในบ้าน พร้อมการพูดให้กำลังใจผู้คนว่า ทุกคนล้วนตกอยู่ในสภาพเดียวกัน เพื่อที่จะได้ไม่เครียดกันเกินไป
จากนั้น เธอเล่าถึงแรงบันดาลใจที่ได้จากโพสต์ที่ชายชาวอิตาเลียนคนหนึ่งเป่าแซกโซโฟนเป็นเพลง Imagine ของ จอห์น เลนนอน สมาชิกวง The Beatles ผู้ล่วงลับ ที่ทำให้เธอตัดต่อวิดีโอภาพเพื่อนๆ ชื่อดังของเธอร้องเพลงเดียวกันนี้ ในแบบไม่มีดนตรี
เพื่อนๆ ที่ว่านี้ มีตั้งแต่ นักแสดงชื่อก้องเช่น นาตาลี พอร์ตแมน เจมส์ มาร์เดน เอมี่ อดัมส์ โซอี้ คราวิตซ์ และมาร์ค รุฟฟาโล รวมทั้งพิธีกรรายทอร์คโชว์ อย่าง จิมมี่ ฟัลลอน ที่ร้องเพลงเดียวกันนี้ต่อกันเป็นท่อนๆ
แต่สิ่งที่ กาดอท หวังจะสื่อออกไป กลับไม่ได้เป็นสิ่งที่ผู้รับรู้สึก เพราะจุดสนใจของโพสต์เหล่านี้ กลายเป็นสภาพความเป็นอยู่ของเซเลบริตี้ชื่อดัง ที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหรูหราขนาดใหญ่ และสิ่งแวดล้อมที่ดูดี มีแสงแดดอ่อนๆ สวยงานประกอบ รวมทั้งเสื้อผ้า-หน้าผมที่ดูดี ซึ่งดีกว่าสภาพความเป็นอยู่ของผู้รับสารใช้ชีวิตอยู่มาก
นอกจากผู้ที่ร่วมถ่ายวิดีโอตัวเองร้องเพลง ซึ่งบางคนก็ร้องผิดคีย์ ยังมีเพื่อนนักแสดงและผู้มีชื่อเสียงอื่นๆ เข้ามาแสดงความเห็นเชิงชื่นชมความพยายามของทุกคนที่จะให้กำลังใจผู้คนรอบโลกด้วย
แต่เสียงตอบรับส่วนใหญ่ที่ได้กลับมาจากปุถุชนคนปกติ กลับเป็นความรู้สึกเกี่ยวกับช่องว่างทางสังคมระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร
ผู้ใช้งานอินสตาแกรมคนหนึ่ง เขียนความเห็นว่า แม้เจตนาและสารจะดูดี แต่สิ่งที่ชัดเจนคือการที่ทุกคนในวิดีโอนั้นไม่ได้อยู่ในโลกของความเป็นจริง ที่ต่างกับคนส่วนใหญ่ในโลก ดังนั้น การที่จะบอกว่า ทุกคนล้วนอยู่ในสภาพเดียวกันนั้น เป็นอะไรที่รับไม่ค่อยได้ ขณะที่ ผู้ใช้งานทวิตเตอร์อีกราย ทวีตความเห็นว่า คนปกติไม่ได้อยากฟังเซเลบริตี้ร้องเพลงให้ฟัง แต่อยากให้ควักเงินมาช่วยซื้อเครื่องช่วยหายใจ หน้ากากอนามัย และถุงมือ มาบริจาคให้โรงพยาบาล หรือไม่ก็ช่วยจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานบาร์ ร้านอาหาร หรือศูนย์ดูแลเด็กอ่อนมากกว่า