รัฐบาลสหรัฐฯ คาดว่า วิกฤตการณ์การระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่อความหวังในการเพิ่มการส่งออกสินค้าอเมริกันไปจีน ภายใต้ข้อตกลงการค้าเฟส 1 ที่สองประเทศลงนามไปเมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา
แลร์รี คัดโลว์ (Larry Kudlow) ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์กับสถานีข่าว Fox Business Network ว่า ห่วงโซ่อุปทานของภาคธุรกิจในสหรัฐฯ ไม่น่าจะได้รับผลกระทบหนักจากนโยบายห้ามชาวต่างชาติที่มีประวัติเดินทางไปประเทศจีนเมื่อเร็วๆ นี้ และมาตรการปิดเมืองหลายแห่งของรัฐบาลจีน
ความเห็นของ คัดโลว์ ถือเป็นคำยืนยันที่เป็นทางการครั้งแรกของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับผลกระทบของการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 400 รายและส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อหลายหมื่นคนในกว่า 20 ประเทศ
อย่างไรก็ตาม คัดโลว์ ยอมรับว่า สถานการณ์ปัจจุบันน่าจะทำให้เป้าหมายการเพิ่มการส่งออกสินค้าจากสหรัฐฯ ไปจีนตามข้อตกลงการค้าเฟส 1 ต้องเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิม
สหรัฐฯ และจีน ลงนามรับรองข้อตกลงดังกล่าวเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ ในการระงับการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารอบใหม่สำหรับสินค้าจากจีน เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่จีนจะสั่งซื้อสินค้าเกษตร พลังงาน และสินค้าและบริการอื่นๆ จากสหรัฐฯ
สหรัฐฯ คาดว่า ข้อตกลงการค้าล่าสุดนี้จะกระตุ้นมูลค่าการส่งออกไปยังจีนให้สูงขึ้นอีก 7 หมื่น 6 พันล้านดอลลาร์ในปีแรกหลังบังคับใช้ และอีก 1 แสน 2 หมื่น 3 พันล้านดอลลาร์ในปีที่ 2
จีนเป็นคู่ค้าที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐฯ ในปี ค.ศ. 2019 ตามหลังเม็กซิโกและแคนาดา