รัฐสภาสหรัฐฯ ถกเถียงอย่างเข้มข้นถึงอนาคตของธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือ Ex-Im Bank โดยฝ่ายอนุรักษ์นิยมของพรรครีพับลิกันบอกว่าธนาคารแห่งนี้คือการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ และเป็นการแทรกแซงตลาดเสรีโดยไม่จำเป็น นอกจากนี้ยังตำหนิว่าธนาคาร Ex-Im ช่วยเหลือบริษัทใหญ่ๆที่มีเครือข่ายกับนักการเมือง มากกว่าบริษัทขนาดย่อม
แต่ผู้สนับสนุนบอกว่า ธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกได้ช่วยให้เกิดการจ้างงานราว 64,000 ตำแหน่งในสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้ว และถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันเศรษฐกิจของรัฐเท็กซัส เซาธ์-แคโรไลน่า แมสซาชูเสตต์ และอีกหลายรัฐ
ขณะที่ผู้จัดการใหญ่ของธนาคารระบุว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ของธนาคารคือบริษัทขนาดย่อม และว่าการที่ธนาคารเก็บค่าธรรมเนียมบริการ ทำให้ธนาคารมีเงินสำรองหลายพันล้านดอลล่าร์เพื่อชดเชยหนี้เสีย หมายความว่าธนาคารสามารถทำกำไรได้ด้วย
กฏบัตรของธนาคาร Ex-Im จะหมดอายุในเดือน มิ.ย ซึ่งหากรัฐสภาไม่ต่ออายุก็หมายความว่า Ex-Im Bank อาจต้องปิดตัวลงในเดือนหน้า โดยรัฐสภาสหรัฐมีกำหนดจะพิจารณาเรื่องนรี้อีกครั้งในช่วงต้นเดือน มิ.ย
ขณะเดียวกัน วุฒิสภาสหรัฐฯมีเวลาอีกเพียงไม่กี่วันในการพิจารณาร่างกฏหมาย 3 ฉบับ
ฉบับแรกคือร่างกฏหมาย Trade Promotion Authority หรือ TPA ซึ่งจะช่วยให้การเจรจาข้อตกลงการค้า Trans-Pacific Partnership ที่ค้างคาอยู่ ให้เดินหน้าไปได้เร็วขึ้น
ฉบับที่สองคือร่างกฏหมายการทำงานของหน่วยงานด้านความมั่นคง NSA เกี่ยวกับการเก็บสถิติการใช้โทรศัพท์ของประชาชนอเมริกัน ที่กำลังจะหมดอายุลงในเดือนนี้
และฉบับที่สามคือร่างกฏหมายโครงการก่อสร้างและบูรณะซ่อมแซมทางด่วนทั่วประเทศในช่วง 6 ปีข้างหน้า ซึ่งรัฐสภาจะต้องลงมติว่าจะต่อายุไปอีก 2 เดือนสำหรับงบประมาณในส่วนนี้ ก่อนที่จะหมดอายุลงในวันที่ 1 มิ.ย หรือไม่
รายงานจากห้องข่าววีโอเอ / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง