รัฐมนตรีพาณิชย์ของไทย นางอภิรดี ตันตราภรณ์ เดินทางเยือนสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 20 ถึง 21 เมษายน เพื่อนำคณะผู้แทนไทยพบเจ้าหน้าที่การค้าอเมริกัน
ในครั้งนี้ฝ่ายไทยได้พบกับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ นาย Michael Forman และตัวแทนเอกชน เช่น บริษัทสินค้าแฟชั่น Michael Kors, Coach และ Under Amor
ข้อมูลที่ได้รับมีส่วนช่วยให้ไทยตัดสินใจในโครงการต่างๆในอนาคต รวมไปถึงท่าทีของไทยในการเข้าเป็นประเทศร่วมเจรจาเขตการค้าเสรี Trans-Pacific Partnership หรือ TPP
TPP เป็นกรอบการค้าเสรีขนาดใหญ่ในกลุ่มประเทศชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก 12 ประเทศที่มีสหรัฐฯเป็นแกนหลักประเทศหนึ่ง
รัฐมนตรีอภิรดีให้สัมภาษณ์กับ Voice of America ว่าการแลกเปลี่ยนทัศนะกับเจ้าหน้าที่อเมริกันครั้งนี้ อยู่ภายใต้กรอบการค้าและการลงทุนระหว่างกันที่เรียกว่า TIFA Joint Council (Trade and Investment Framework Agreement between the U.S. and the Kingdom of Thailand Joint Council)
ทั้งนี้การประสานงานกันระดับเจ้าหน้าที่ภายใต้กรอบ TIFA มีมานานแล้ว แต่ขาดช่วงการสานต่อในระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโสมากว่าสิบปี
บริษัทต่างประเทศที่เข้าพบสามราย คือ Michael Kors, Coach และ Under Amor เป็นกลุ่มสินค้าแฟชั่นที่มีผลิตภัณฑ์ซึ่งรัฐมนตรีพาณิชย์กล่าวว่าไทยมีศักยภาพผลิตสินค้าให้กับแบรนด์เหล่านี้
โดยเฉพาะถ้าสหรัฐฯ เพิ่มสินค้ากลุ่ม Travel Goods ในการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรแบบ GSP สำหรับการส่งออกจากไทยกลับมาที่สหรัฐฯ ในอนาคต
รัฐมนตรีอภิรดียกตัวอย่างความสนใจของบริษัท Michael Kors ที่มีผลิตภัณฑ์กระเป๋ารูปแบบต่างๆ ว่าตัวแทนจากบริษัทอาจเพิ่มจำนวนสินค้าจากไทย หากกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ได้สิทธิ์ GSP จากอเมริกา
สำหรับการรับข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องข้อดีข้อเสียหากไทยเข้าร่วมกลุ่ม TPP รัฐมนตรีพาณิชย์กล่าวว่า ขณะนี้ได้วิเคราะห์ผลกระทบและพบว่ามีหลายด้านที่ไทยจะได้ประโยชน์ แม้จะมีประเด็นที่สร้างความกังวลเรื่องสินค้ายาที่บางกลุ่มคิดว่าอาจราคาแพงขึ้น แต่เธอกล่าวว่าไทยต้องปรับตัวให้ได้
กระทรวงพาณิชย์จะนำข้อมูลและการวิเคราะห์เรื่องผลกระทบจาก TPP เสนอให้นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่การประชุมวันที่ 29 เมษายนนี้เพื่อการกำหนดท่าที่ที่ชัดเจนของไทย
(สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย รัตพล อ่อนสนิท)