รัฐบาลจีนปล่อยให้ค่าเงินหยวนลดลงอยู่ในระดับ 7 หยวนต่อ 1 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี ซึ่งถือเป็นระดับอ่อนไหวทางการเมือง และยิ่งทำให้เกิดความกังวลว่า ปักกิ่งอาจใช้นโยบายลดค่าเงินหยวนนี้เป็นเครื่องมือในการทำสงครามการค้ากับสหรัฐฯ
ธนาคารกลางของจีนกล่าวหาว่า นโยบายปกป้องผู้ประกอบการในประเทศของรัฐบาล ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ประกอบกับคำขู่ของ ปธน.ทรัมป์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะขึ้นภาษีอีก 10% สำหรับสินค้าจากจีนมูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์ คือสาเหตุที่ทำให้ค่าเงินหยวนตกต่ำลงในขณะนี้
แต่ทางประธานาธิบดีทรัมป์ ทวีตข้อความในวันจันทร์ กล่าวหาจีนเช่นกันว่าพยายามบงการค่าเงินหยวนด้วยการปล่อยให้มีค่าต่ำลง
รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่าการที่ค่าเงินหยวนลดต่ำลงนั้นเป็นเพราะทางการจีนต้องการสร้างความได้เปรียบทางการค้าในตลาดโลก และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้จีนได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนพฤษภาคม กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะระบุว่าจีนคือผู้บงการค่าเงินหยวน แต่ก็บอกว่าจะจับตามองนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของจีนอย่างใกล้ชิด
ความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อความตึงเครียดล่าสุดทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ทำให้ดัชนีดาวน์โจนส์ร่วงดิ่งกว่า 700 จุดในวันจันทร์