มีการคาดการณ์เรื่องความพยายามต่ออายุการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ให้สามารถเป็นประธานาธิบดีต่อไปได้หลังปี พ.ศ. 2566 มานานแล้ว
คาดว่าข้อเสนอของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อปลดล็อกข้อกำหนดที่จำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีไม่ให้เกินสองสมัย หรือ 10 ปีนั้น จะได้รับการลงมติเห็นชอบระหว่างการประชุมสมัชชาประชาชนจีนซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 5 มีนาคมนี้
นาย Zhang Lifan นักประวัติศาสตร์และนักวิเคราะห์การเมืองของจีน ให้ความเห็นว่า โดยหลักการแล้วการแก้รัฐธรรมนูญดังกล่าว จะเปิดทางให้ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงสามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้โดยไม่มีวันสิ้นสุด
ทางด้านสื่อมวลชนของทางการจีนเองก็ได้เสนอข่าวสนับสนุนเรื่องนี้ โดยอ้างความเห็นของนักวิเคราะห์บางคนที่ว่าเป็นเรื่องสมเหตุสมผล ที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปอย่างน้อยจนสิ้นสุดช่วง 15 ปีแรกของแผนพัฒนาประเทศระยะยาว 30 ปี
หนังสือพิมพ์ Global Times ได้เสนอความเห็นของอาจารย์ Su Wei ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ให้เหตุผลว่า ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2563 ถึง 2578 เป็นช่วงเวลาสำคัญที่คาดว่าจีนจะมีความคืบหน้าในเรื่องการพัฒนาด้านสังคมนิยม และเป็นเวลาที่พรรคคอมมิวนิสต์และประเทศจีน ต้องการผู้นำที่เข้มแข็ง มีเสถียรภาพและมีความต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ด้านจีนคนอื่น แม้จะเห็นด้วยกับความจำเป็นที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ต้องการอยู่ในตำแหน่งต่อไปก็ตาม แต่ก็ชี้ถึงเหตุผลด้านอื่นที่ทำให้ผู้นำของจีนต้องการเวลาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเรื่องนโยบายปราบปรามคอรัปชั่น ซึ่งได้สร้างศัตรูขึ้นจำนวนมาก และชี้ว่าหากประธานาธิบดี สี จิ้นผิง พ้นจากตำแหน่งไปภายในอีก 5 ปี ก็มีโอกาสความเสี่ยงอย่างสูงที่เขาอาจจะถูกแก้แค้นได้
ส่วนนักวิเคราะห์ต่างชาติบางคน เช่น นาย Jean-Pierre Cabestan ผู้สอนวิชารัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Hong Kong Baptist ชี้ว่า ความไม่คืบหน้าของการปฏิรูปประเทศจีนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ต้องการเวลาบริหารประเทศมากขึ้น
และว่าสิ่งที่สังคมจีนต้องการขณะนี้ คือการมีผู้นำส่วนกลางที่เข้มแข็ง ผู้สามารถตัดสินใจและวางแผนระยะยาวให้กับประเทศได้ ในขณะที่จีนกำลังมีปัญหาเศรษฐกิจและสังคมหลายด้าน
อาจารย์ Jean-Pierre Cabestan มองว่า สิ่งที่ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังทำอยู่ขณะนี้ คือการชิงเดินเกมก่อน เพื่อป้องกันปฏิกิริยาหรือความไม่พอใจในสังคม ที่อาจเกิดขึ้นจากปัญหาเศรษฐกิจที่สังคมจีนประสบอยู่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
และนักวิเคราะห์ต่างชาติที่มองการเมืองจีนอีกคนหนึ่ง คืออาจารย์ Gordon Houlden ผู้สอนวิชารัฐศาสตร์ และเป็นผู้อำนวยการสถาบันจีนศึกษาที่มหาวิทยาลัย Alberta ในแคนาดา ก็มองเช่นกันว่า การปลดล็อกเรื่องการจำกัดวาระดำรงตำแหน่ง 10 ปีของประธานาธิบดีจีนนี้ เป็นเรื่องสำคัญ
โดยถ้ามองในระยะสั้น เรื่องนี้จะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับผู้นำของจีน แต่ก็อาจสร้างปัญหาท้าทายในระยะยาวขึ้นได้เช่นกัน เพราะจะทำให้ประเทศจีนปิดกั้นโอกาสสำหรับผู้นำรุ่นใหม่ที่มีแนวความคิดใหม่ๆ เพื่อแก้ปัญหาของประเทศ และจะทำให้เศรษฐกิจ สังคม รวมทั้งระบบการเมืองของจีนนั้น ไม่สามารถพัฒนาได้เท่าที่ควร