ไฟการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งเป็นเจ้าภาพในปีนี้ดับลงสนิทในคืนวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นสัญญาณการปิดม่านมหกรรมกีฬาของมนุษยชาติที่คนทั่วโลกจะจดจำไปตลอดว่า จัดขึ้นภายใต้มาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ที่เข้มงวดถึงขั้นสุด รวมทั้ง กรณีข่าวฉาวเรื่องการใช้สารกระตุ้นของ คามิลา วาลิเอวา นักสเก็ตน้ำแข็งวัย 15 ปี ของรัสเซีย
ในพิธีปิดการแข่งขันที่จัดขึ้นที่สนามกีฬารังนก หรือสนามกีฬาแห่งชาติปักกิ่ง โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ให้ความเห็นว่า มหกรรมโอลิมปิกกรุงปักกิ่งนั้น เป็นงานที่ “มีความพิเศษอย่างแท้จริง” ก่อนที่จะประกาศปิดงานอย่างเป็นทางการ
นอกจากจะเป็นกิจกรรมระดับโลกที่จัดขึ้นภายใต้ “ระบบปิด” และเป็นการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกรายการที่ 2 ในรอบ 6 เดือนที่ถูกกดดันจากภาวะระบาดใหญ่ของโควิด-19 จนแทบไม่เหลือบรรยากาศรื่นเริงใดๆ อย่างที่เคยมีมาแล้ว งานนี้ยังถูกปกคลุมไปด้วยบรรยากาศทางการเมือง หลังนานาประเทศตัดสินใจดำเนินมาตรการคว่ำบาตรทางการทูต เนื่องจากประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชนของจีน รวมทั้งเรื่องของสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซีย ขณะที่ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน เป็นผู้นำโลกคนสำคัญคนเดียวที่เข้าร่วมพิธีเปิดงาน และร่วมกับผู้นำจีนแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่จะต่อต้านแรงกดดันของชาติตะวันตก
อย่างไรก็ตาม ตลอดเวลาจัดการแข่งขัน 2 สัปดาห์นี้ จีนไม่ได้ต้องขายหน้า จากเหตุประท้วงของบรรดานักกีฬาต่อกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ หรือประเด็นอื่นใด ขณะที่ ผู้สื่อข่าวต่างชาตินับพันคนก็ถูกสั่งให้อยู่แต่ในพื้นที่จำกัด ภายใต้ระบบปิดที่ว่า จนไม่สามารถรายงานสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่
และขณะที่มาตรการควบคุมการระบาดของโคโรนาไวรัสอันแสนเข้มงวดของจีนจะช่วยยับยั้งไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของไวรัสได้จริง นักกีฬาจำนวนมากต้องกลับประเทศด้วยความผิดหวังที่ไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ หลังตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 ขณะที่ นักกีฬาอีกไม่น้อยไม่สามารถทำการฝึกซ้อมเตรียมตัวได้อย่างเต็มที่เพราะนโยบายแยกตัวเพื่อระวังการแพร่เชื้อ และยังมีกรณีเสียงเรียกร้องให้ปรับปรุงอาหาร คุณภาพของอินเตอร์เน็ต อุปกรณ์และพื้นที่ฝึกซ้อมที่ไม่เพียงพอด้วย
ท้ายสุด สิ่งที่คนทั่วโลกจะจดจำได้หลังจากนี้ คงหนีไม่พ้นกรณีของ คามิลา วาลิเอวา นักสเก็ตน้ำแข็งวัย 15 ปี ของรัสเซีย ที่ถูกกดดันอย่างหนักจนพลาดเหรียญในการแข่งขันรายการสุดท้าย หลังเธอมีผลการตรวจพบสารกระตุ้นต้องห้ามเป็นบวกก่อนจะมาร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว แต่เพิ่งมาได้รับการเปิดเผยหลังเริ่มงานและหลังเธอช่วยให้ทีมสเก็ตน้ำแข็งรัสเซียคว้าเหรียญทองไปได้
และแม้ วาลิเอวา จะได้รับอนุญาตให้เข้าแข่งขันสเก็ตน้ำแข็งลีลารายการหญิงเดี่ยว เธอกลับทำผลงานได้ไม่ดีพอและพลาดในหลายจุดจนได้คะแนนเป็นอันดับที่ 4 ซึ่งทำให้ อิเตรี ทุตเบริดเซ โค้ช ออกอาการที่ โธมัส บาค ประธาน IOC เองระบุว่า รู้สึก “สยอง” เลยทีเดียว ขณะที่ ประเด็นนี้นำมาซึ่งการถกเถียงเกี่ยวกับความเหมาะสมของบรรยากาศการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกต่อนักกีฬาที่เป็นผู้เยาว์ และส่งผลให้หน่วยงานระดับโลกในด้านการปราบปรามสารกระตุ้นเริ่มทำการสอบสวนทีมงานรอบตัว วาลิเอวา แล้ว