เรื่องการซื้อทัวร์ท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นประเด็นขึ้นมาเมื่อมีข่าวนักท่องเที่ยวชาวจีนวัย 54 ปี Miao Chunqi ถูกทุบตีและเกิดหัวใจวายถึงแก่ชีวิตที่หน้าร้านค้าเครื่องประดับแห่งหนึ่งในฮ่องกง ในสัปดาห์ที่แล้ว
รายงานข่าวกล่าวว่า Miao กำลังพยายามจะห้ามปรามการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างเพื่อนร่วมทัวร์สองคนที่ปฏิเสธที่จะซื้อของที่ร้านค้าแห่งนั้น และทะเลาะกับไกด์
ทัวร์ 20 คนกลุ่มนี้เป็นของบริษัทท่องเที่ยวใน Shenzhen ซึ่งเก็บค่าทัวร์เพียง 1,700 บาทสำหรับสามวันในฮ่องกง รวมทั้งการช็อปปิ้งแบบมาราธอน
รองศาสตราจารย์ Andrew Chan ซึ่งสอนวิชาการบริหารโรงแรมและการท่องเที่ยวที่มหาวิทยาลัย Hong Kong Polytechnic บอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความผิดทางอาญาสองประการ
ประการแรกคือผู้ขายทัวร์คิดค่าบริการต่ำกว่าต้นทุน และประการที่สองคือการบังคับให้นักท่องเที่ยวซื้อของ โดยบริษัททัวร์ได้ส่วนแบ่งจากร้านค้ามากกว่า 60%
ทางการจีนและฮ่องกงพยายามปราบปรามทัวร์ราคาถูกแบบนี้มานานแล้ว มาตรการลงโทษบริษัททัวร์แบบนี้มีตั้งแต่ถอนใบอนุญาต ไปจนถึงค่าปรับที่อาจสูงถึง 1.7 ล้านบาท แต่ไม่สำเร็จ จึงหันมามุ่งเป้าการปราบปรามที่ตัวนักท่องเที่ยว
Lilien Lian กรรมการผู้จัดการบริษัททัวร์ Grand China Air Travel บอกว่า จะบังคับใช้มาตรการใหม่นี้ได้ยาก โดยให้เหตุผลว่าจีนเป็นประเทศที่กว้างใหญ่ไพศาล การทำตามคำสั่งจากปักกิ่งในระดับจังหวัดหรือเมืองมักไม่ได้ผล นอกจากนี้ ส่วนกำไรของบริษัททัวร์นั้นไม่มาก จึงมีคนกล้าเสี่ยงอยู่เสมอ
แต่ Joseph Tung ผู้บริหารสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของฮ่องกงสนับสนุนมาตรการลงโทษนักท่องเที่ยว โดยให้ความเห็นว่า นักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ในฐานะผู้บริโภค จะต้องรู้จักปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง
แต่อาจารย์ Andrew Chan ของมหาวิทยาลัย Hong Kong Polytechnic ไม่เห็นด้วย และว่ามาตรการลงโทษนักท่องเที่ยวจะใช้ไม่ได้ผล
นักวิชาการชาวฮ่องกงผู้นี้บอกว่า แม้จะถูกทำร้ายโดยคนขายของในฮ่องกง นักท่องเที่ยวจะไม่ร้องทุกข์ เพราะเขาเข้าใจดีว่าถ้าทำเรื่องร้องทุกข์ พอกลับเข้าจีน ยังจะถูกลงโทษอีกด้วย
จึงไม่คิดว่ามาตรการลงโทษนักท่องเที่ยวสมเหตุผลและเป็นธรรม