รัฐบาลปักกิ่งประกาศกร้าวตอบโต้การที่สหรัฐฯ พิจารณาปรับขึ้นภาษีร้อยละ 10 กับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่าอีก 200,000 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่สหรัฐฯ เริ่มใช้มาตรการภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนเป็นมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์เมื่อไม่นานมานี้
โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน หัว ชุน อิง บอกว่า สหรัฐฯ ทำตัวเป็นอันธพาลด้านการค้า ซึ่งจีนพร้อมจะใช้มาตรการที่จำเป็นในการปกป้องสิทธิอันชอบธรรมของประเทศ พยายามกำลังคุกคามทางการค้า และว่านี่คือการต่อสู้ระหว่างวิถีของการปกป้องการค้าและการค้าเสรี ซึ่งจีนเลือกที่จะยืนหยัดกับนานาประเทศเพื่อปกป้องระบบการค้าเสรีไปร่วมกัน
เช่นเดียวกับนาย เกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน ที่ย้ำว่าจีนไม่ได้ต้องการสงครามการค้า แต่ก็ไม่เคยกลัวและพร้อมจะต่อสู้หากจำเป็น
ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนยังบอกด้วยว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อเกี่ยวกับการกลับไปเจรจาการค้ารอบใหม่กับสหรัฐฯ หลังจากที่รัฐบาลวอชิงตันมีแผนจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติมมูลค่าอีกอีก 200,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนปลายเดือนสิงหาคมนี้
ผลสำรวจของธุรกิจสหรัฐฯที่ดำเนินกิจการในจีน ออกมาคัดค้านการใช้มาตรการภาษีของสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้มาตรการการถ่ายโอนข้อมูลด้านเทคโนโลยีของรัฐบาลจีน
ขณะที่ผู้ผลิตยานยนต์จากเกาหลีใต ฮุนได ได้ออกมาเตือนว่ากำแพงภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์อาจทำให้ชาวอเมริกัน 20,000 คนในอุตสาหกรรมยานยนต์ต้องตกงานได้
ทั้งนี้ แนวคิดการตั้งกำแพงภาษีกับสินค้าจีนเพิ่มเติมรอบล่าสุดนี้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยนายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ ที่มองว่าการขึ้นภาษีรอบใหม่กับจีนไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง